
InnovestX รุกตลาด DR เปิดตัว DR23 ชูลงทุน ETF ปันผล-หุ้นเทคจีนโตสูง
InnovestX รุกตลาด DR เปิดตัว DR23 ใหม่ส่ง ETF ปันผลเด่น พร้อมหุ้นเทคจีนศักยภาพเติบโตสูง ทางเลือกลงทุนหุ้น ต่างประเทศ เริ่มซื้อขาย 24 มิ.ย. ฟาก “อัสสเดช” เปรยบ่ายวันนี้ เตรียมประชุมประเมินความเหมาะสมมาตรการตลาดชั่วคราว รับมือความผันผวนสถานการณ์โลก
InnovestX เรือธงด้านการลงทุนภายใต้ กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX Group) เปิดเผยว่า ตอกย้ำบทบาทผู้นำในการลงทุนในต่างประเทศ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Depositary Receipt (DR) ชุดแรก จำนวน 3 ตัว เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตสู่ตลาดจีน ได้แก่ 1.) HSHD23 ที่เป็น DR ETF ที่อิงดัชนี Hang Seng High Dividend Yield ETF ตัวแรกของประเทศไทย ลงทุนในหุ้นเด่นกลุ่มปันผลสูง มีประวัติการจ่ายปันผลสูงเฉลี่ย 6–8% ต่อปี 2.) CATL23 หุ้นเทคแบตเตอรี่แห่งอนาคต ที่เติบโตเคียงข้างยอดขายรถยนต์ EV และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ทั่วโลก
3.) BABA23 ที่อ้างอิงหุ้น Alibaba กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีผู้นำอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน การเปิดตัว DR ชุดนี้ สอดรับกับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนต่างประเทศให้ง่าย สะดวก และได้ประสิทธิภาพ เสมือนการลงทุนในหุ้นไทย ซื้อขายเป็นเงินบาท ไร้กังวลภาษี ทั้งนี้ DR ทั้ง 3 ตัว พร้อมให้นักลงทุนซื้อขายได้แล้วตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป บนตลาดหุ้นไทยผ่านแอป Streaming พร้อมโปรโมชันช่วงเปิดตัว เทรด DR 3 ตัวใหม่ผ่าน InnovestX ฟรีค่าธรรมเนียม* ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.68 – 31 ก.ค. 68 มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท
โดยได้รับเกียรติจาก นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมด้วย นาย โรนัลด์ แลม (Ronald Lam) Head of Institutional Sales, Global X by Mirae Asset
รวมไปถึง นายพยนต์ พงศาวรี Chief Investment Officer, InnovestX ร่วมพิธีเปิดการซื้อขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR23) วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
นายพยนต์ พงศาวรี Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า “ในทุกสภาวะตลาด นักลงทุนควรมีทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมและยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ InnovestX จึงพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนที่ทัดเทียมระดับโลก พร้อมเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ครบทุกสินทรัพย์ทั่วโลก (All-Weather Products) เพื่อให้การลงทุนง่าย ราบรื่น และตอบโจทย์ทุกจังหวะการลงทุน รวมถึง DR23 ที่ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าถึงหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ซื้อขายด้วยเงินบาท ภายใต้การกำกับดูแลของไทย ลดข้อจำกัดทั้งด้านภาษีและขั้นตอนการลงทุนต่างประเทศ
DR23 ชุดแรกนี้ เราคัดสรร ETF และหุ้นจีนคุณภาพจากตลาดฮ่องกง ซึ่งเรามองว่าเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว ทั้งยังมี Valuation ที่น่าสนใจ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ภายใต้นโยบาย Made in China 2025 และการขยายตัวอย่างรวดเร็วใน AI, EV และ Cloud Computing
1. HSHD23 – DR ETF ปันผลสูงตัวแรกในไทย อ้างอิง Global X Hang Seng High Dividend Yield ETF (3110.HK) ลงทุนในหุ้นฮ่องกงที่จ่ายปันผลสูง ความผันผวนต่ำกว่าดัชนีหลัก ได้รับแรงหนุนจากนโยบายรัฐจีนที่ผลักดัน SOE ให้สร้างผลตอบแทนมั่นคง เช่น PCCW Ltd (0008.HK) บริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง หรือ Uni-President China Holdings Ltd (0220.HK) บริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำในจีน เป็นต้น
2. CATL23 – DR หุ้น CATL ผู้นำแบตเตอรี่รถ EV ระดับโลก ครองตลาด 37% เป็นพันธมิตรหลักของ Tesla, BMW, Mercedes-Benz มีฐานะการเงินแกร่ง รายได้-กำไรเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนโอกาสในธีมพลังงานสะอาดแห่งอนาคต รวมถึงต่อยอดการเติบโตด้วยธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
3. BABA23 – DR หุ้น Alibaba ผู้นำอีคอมเมิร์ซจีน ผ่านแพลตฟอร์ม Taobao–Tmall พร้อมธุรกิจ Cloud, AI และโลจิสติกส์ (Cainiao) มีศักยภาพการเติบโตทั้งกำไร เงินสด และการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง BABA23 จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในธีมเทคโนโลยีจีนและนวัตกรรม
DR23 โดย InnovestX ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA จาก Fitch Ratings เปิดประตูสู่การลงทุนต่างประเทศ ให้นักลงทุนไทยเข้าถึงหุ้นระดับโลกได้ง่ายเหมือนซื้อหุ้นไทย ด้วยราคาซื้อขาย (Fair Price) ที่สอดคล้องกับสินทรัพย์อ้างอิงปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ภายใต้ความร่วมมือในกลุ่ม SCBX พร้อม Market Maker ดูแลสภาพคล่องอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ซื้อขายราบรื่น มั่นใจใน Market Stability โดยจุดแข็งของ DR23 ยังอยู่ที่ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ตรงในการออกและบริหาร DR โดยเฉพาะ และทีมนักวิเคราะห์จาก InnovestX Research ที่สนับสนุนข้อมูลเชิงลึกทั้งเศรษฐกิจ พื้นฐาน ปัจจัยเทคนิค คำแนะนำการลงทุน และพร้อมให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลหุ้นแม่ของ DR23 และเครื่องมือคำนวณราคา DR23 ช่วยลดความคลาดเคลื่อนของ Fair Value เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างมั่นใจ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX แพลตฟอร์มลงทุนที่มั่นใจได้จากกลุ่ม SCBX ที่เดียวที่ลงทุนครบ ง่าย ได้เปรียบ ในทุกสภาวะตลาดทั่วโลก”
ผู้ลงทุนสามารถพิมพ์สัญลักษณ์ HSHD23, CATL23 หรือ BABA23 ในแอป Streaming เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันที ไม่ว่าคุณจะใช้บัญชี InnovestX หรือโบรกเกอร์รายอื่น DR23 ทั้งสามตัวซื้อขายได้เหมือนหุ้นไทย ทำให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสการลงทุนระดับโลกได้สะดวกและมั่นใจยิ่งขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook หรือ Line: @InnovestX *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
นายพยนต์ พงศาวรี Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวเสริมว่า เราเป็นผู้นำในการนำเสนอทางเลือกการลงทุนจากทั่วโลกให้กับนักลงทุนไทย ซึ่งมองว่าผลิตภัณฑ์ DR ที่ออกมานี้สามารถตอบโจทย์นักลงทุนไทยได้ดี โดยไม่ต้องยุ่งยากกับกระบวนการแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือต้องไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดความกังวลในเรื่องภาษีจากต่างประเทศด้วย
ขณะที่ บริษัทฯเอง มองว่าการลงทุนมันเป็น Cyclical บางช่วงตลาดไทยอาจซบเซา ขณะที่หากมองไปยังต่างประเทศจะเห็นการเติบโตมากกว่า ดังนั้น สิ่งที่เราทำในฐานะบริษัทก็คือพยายาม Provide opportunity หรือจัดเตรียมโอกาสและเครื่องมือให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เชิงปัจจัยพื้นฐาน หรือเชิงเทคนิค เพื่อให้นักลงทุนสามารถเลือกกลุ่มหุ้นได้อย่างเหมาะสม
แม้จะมีความกังวลจากสถานการณ์ความไม่สงบในโลก แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือ 2 รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน เราพบว่า เหตุการณ์สงครามกระทบการลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น นักลงทุนที่เข้าใจตลาดและมองระยะยาว มักจะได้ผลตอบแทนดีจากการถือครองสินทรัพย์คุณภาพในจังหวะที่ตลาดปรับฐานแรง ดังนั้นเรามั่นใจว่า DR ทั้ง 3 ตัวที่เราออกมาในรอบนี้เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว แต่ละตัวล้วนเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและสามารถอยู่รอดในทุกภาวะตลาด
ขณะที่ นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หากพูดถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ผมคิดว่าทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักลงทุนต่างก็มีข้อมูลที่เพียงพอในการใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในภาวะที่ตลาดยังคงผันผวนอยู่ในขณะนี้
สำหรับช่วงเที่ยงวันนี้ 24 มิ.ย. ขณะที่ตลาดพักการซื้อขาย ทางคณะผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการประชุมเพื่อประเมินมาตรการชั่วคราวที่ออกมาก่อนหน้านี้ยังมีความเหมาะสมหรือจำเป็นอยู่หรือไม่ และจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งในช่วงบ่าย เพื่อให้นักลงทุนเตรียมความพร้อมสำหรับการซื้อขายในช่วงเช้าวันพุธที่จะถึงนี้ 25 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ผมขอแสดงความยินดีกับตลาดหลักทรัพย์ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ DR 3 ตัวด้วยกัน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญและน่าชื่นชมที่ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น โดยสามารถซื้อขายได้ด้วยเงินบาท มีราคาที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามบทบาทหลักของตลาดหลักทรัพย์ในการสร้างโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย
นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดมี DR รวมทั้งสิ้น 123 ตัว และมีปริมาณการซื้อขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นถึง 125% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อย่างชัดเจน
DR ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 DR มีมูลค่า Market Cap ในประเทศไทยประมาณ 34,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 15% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ ประมาณ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากถึง 125%
ในวันนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นและกองทุน ETF ระดับโลกได้อย่างสะดวกผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันมี DR ที่จดทะเบียนซื้อขายแล้วรวมทั้งสิ้น 123 หลักทรัพย์
สุดท้ายนี้ ในนามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผมขอขอบคุณบริษัทหลักทรัพย์ InnovestX จำกัด Mirae Asset Management รวมถึงพันธมิตรสำคัญต่าง ๆ ที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ DR เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน และช่วยเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนไทยอย่างต่อเนื่อง