
GPSC เด้ง 3% รับ “ทริสเรทติ้ง” คงอันดับเครดิต “AA+” สะท้อนฐานะการเงินแกร่ง
GPSC เด้ง 3% คงอันดับเครดิต “AA+” จากการจัดอันดับของ “ทริสเรทติ้ง” สะท้อนรายได้เติบโตจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ และพอร์ตสินทรัพย์ที่เป็นนวัตกรรมพลังงานที่มีความหลากหลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ณ เวลา 10:10 น. อยู่ที่ระดับ 31.75 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 3.25% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 31.75 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 31.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23.35 ล้านบาท
นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน GPSC เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตของ GPSC อยู่ที่ระดับ “AA+” แนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” นับว่าเป็นการจัดอันดับเครดิตสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าเอกชนของประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และพอร์ตสินทรัพย์ที่เป็นนวัตกรรมพลังงานที่มีความหลากหลายในการสร้างผลตอบแทนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การจัดอันดับของทริสเรทติ้ง ชี้ให้เห็นว่า GPSC มีศักยภาพในการรักษาวินัยทางการเงิน และความสามารถในการบริหารพอร์ตการลงทุน รวมถึงการถือครองสินทรัพย์โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่า 40 โครงการ ทั้งในประเทศไทย อินเดีย ไต้หวัน และ สปป.ลาว โดยมีรายได้หลักจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำ ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงจากโครงสร้างสัญญาที่มีการรับประกันการรับซื้อขั้นต่ำ หรือภายใต้เงื่อนไข Take-or-pay และสัญญาส่วนใหญ่มีรายได้ที่สามารถส่งผ่านต้นทุนราคาเชื้อเพลิง
ขณะเดียวกัน บริษัทมีการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการเติบโตระยะยาว โดยบริษัทยังเดินหน้าในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนโดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 68% ในปี 2573 ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานของกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ และการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ การคงอันดับเครดิตสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจที่ชัดเจน สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคต ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของไทย เพื่อการเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน โดย ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2568 มีกำลังผลิต 7,342 เมกะวัตต์ (MW) และตั้งเป้าขยายสู่ 14,175 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ตามแผนการลงทุนระยะยาว
อย่างไรก็ตาม GPSC ให้ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. ในการขับเคลื่อนพัฒนาพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต เช่น ไฮโดรเจน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูล (Small Modular Reactor: SMR) โดย GPSC ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน วงเงินสินเชื่อ และความร่วมมือในระดับยุทธศาสตร์จากกลุ่ม ปตท. อย่างต่อเนื่อง