
“บล.กรุงศรี” เชียร์ซื้อ GULF เป้า 56.50 บ. ปิดดีล M&A โปรเจกต์ใหญ่รัว ดันกำไรระยะยาว
บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GULF ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท รับปัจจัยหนุนดีล M&A โครงการใหญ่ คาดสร้างกำไรส่วนเพิ่มปี 75 ราว 3,500 ล้านบาท หนุนเติบโตระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้เดินหน้าการลงทุนผ่านการซื้อกิจการ (M&A) โครงการที่ 5 และ 6 ได้แก่ 1.) Gulf Hydropower Holdings Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 60 ของ Pak Lay Power Company Limited หรือโรงไฟฟ้าพลังน้ำจาก SHK โดยเป็นการเข้าซื้อทั้งทุนและเงินกู้จาก Sinohydro Hongkong มูลค่าราว 4,100 ล้านบาท
2.) เข้าถือโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมและโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม (Biomass) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาจาก บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด หรือ WTX เพิ่มเติมอีก 5 เมกะวัตต์ มูลค่า 93 ล้านบาท
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวก (Positive) ต่อ GULF เนื่องจากเป็นการเพิ่ม Equity MW ขนาดใหญ่ให้แก่ GULF ต่อจากดีล บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL และ Blue Circle ซึ่งดีลนี้จะเพิ่มกำลังการผลิตรวมให้แก่ GULF อีก 462 เมกะวัตต์ โดยมีการประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยสร้างกำไรส่วนเพิ่มระยะยาวในปี 2575 ให้กับ GULF ราว 3,500 ล้านบาท และยังเป็นปัจจัยหนุนให้เกิด Upside ต่อราคาเป้าหมาย (TP) อีกประมาณ 0.30 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือครองยังจะส่งผลให้ GULF สามารถปรับรูปแบบการบันทึกบัญชีจากเดิมที่รับรู้ในรูปแบบกิจการร่วมค้า (JV) เป็นการรวมงบการเงิน (Consolidate) เข้ามาในงบการเงินรวมของบริษัท
ขระที่ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 56.50 บาท ปัจจุบันบริษัทยังมีดีลที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งอาจเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายในอนาคต ได้แก่ 1.) โครงการ GUNKUL ขนาด 230 เมกะวัตต์ , 2.)โครงการ Blue Circle ขนาด 218 เมกะวัตต์ , 3.) โครงการ Pak Ley ขนาด 462 เมกะวัตต์ และ 4.) โรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) รวมขนาด 50 เมกะวัตต์