
CLSA มองเป้า SET ปีนี้ 1,355 จุด ชี้การเมืองนิ่งหนุน “ต่างชาติ” เพิ่มน้ำหนักลงทุน
CLSA ระบุความเชื่อมั่นนักลงทุนฮ่องกงต่อหุ้นไทยฟื้นตัวจากเสถียรภาพการเมือง คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนค้าปลีก พร้อมตั้งเป้าดัชนี SET ปี 2569 ที่ 1,355 จุด พร้อมชูหุ้นแนะนำ ได้แก่ BH, CPALL, ERW, MINT และ MTC
บริษัทหลักทรัพย์ CLSA เปิดในบทวิเคราะห์ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนฮ่องกงต่อหุ้นไทยเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเสถียรภาพทางการเมือง แม้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการก็ตาม
ทั้งนี้ ในการประชุม Investors’ Forum ที่ฮ่องกง CLSA ได้หารือกับนักลงทุนสิบรายซึ่งปัจจุบันยังคงมีน้ำหนักลงทุนในหุ้นไทยต่ำ แต่แสดงท่าทีเปิดรับการเพิ่มน้ำหนักลงทุน หากรัฐบาลสามารถออกนโยบายที่สร้างสรรค์และเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการเปลี่ยนผู้นำ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกมองว่าเป็นการปลดล็อกภาวะการเมืองที่ชะงักงัน อย่างไรก็ตาม CLSA ชี้ว่ารัฐบาลใหม่มีเวลาเพียง 6 เดือนในการบริหารจริง (4 เดือนก่อนการยุบสภา และอีก 2 เดือนก่อนเลือกตั้ง) ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการปฏิรูปเชิงลึก
โดยตลาดยังคงคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน โดยเฉพาะมาตรการคืนโครงการคนละครึ่งและมาตรการบรรเทาค่าครองชีพเพิ่มเติม รวมถึงการพิจารณายกเลิกค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ และแนวคิดการเปิดคาสิโนถูกกฎหมาย นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นกลุ่มค้าปลีกเป็นพิเศษ ได้แก่ CPN, CPALL, CPAXT และ OSP
ด้านตลาดทุน ดัชนี SET ตั้งแต่ต้นไตรมาสปรับขึ้นแล้ว 19% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+63%), ขนส่ง (+33%), ก่อสร้าง (+33%), การเงิน (+30%) และพาณิชย์ (+18%) โดย DELTA พุ่งขึ้นถึง 65% หนุนดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 60 จุด ขณะที่ AOT และการบินไทยช่วยหนุนกลุ่มขนส่ง
CLSA ยังระบุว่า สถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา (ปี 2550, 2554, 2562) มักหนุนดัชนี SET ให้ปรับตัวขึ้น 2.2%-3.5% ในช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้ง ยกเว้นปี 2566 ที่ดัชนี SET ปรับลงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและความกังวลต่อการรัฐประหาร สำหรับการเลือกตั้งไตรมาส 2 ปี 2569 คาดว่าความหวังและบรรยากาศเชิงบวกจะช่วยหนุนตลาด โดย CLSA ตั้งเป้าดัชนี SET ปี 2569 ที่ระดับ 1,355 จุด อัตราส่วน PE อยู่ที่ 15.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2560-2562 และ 2565-2568 (ยกเว้นช่วงโควิด) จึงยังเปิดโอกาสให้ PE ขยายตัวในระยะสั้น
หุ้นเด่นที่ CLSA แนะนำ ได้แก่ BH, CPALL, ERW, MINT และ MTC ซึ่งคาดว่าจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว