สุเชษฐ์ มอง SET ผันผวน แนะกลยุทธ์เล่นสั้น เก็งกำไร TIDLOR-KTB-AURA-WHA

"สุเชษฐ์ สุขแท้" มองตลาดหุ้นไทยยังผันผวน วอลุ่มซื้อขายเบาบาง แนะนักลงทุนใช้กลยุทธ์ “เล่นสั้น” เก็งกำไรเป็นรอบ พร้อมชู 4 หุ้นเด่น TIDLOR, KTB, AURA และ WHA ที่ยังมีสัญญาณบวกจากปัจจัยเฉพาะตัวให้ผลตอบแทนระยะสั้น


นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังมีความผันผวนและปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง โดยมองแนวต้านสำคัญของดัชนี อยู่ที่ระดับ 1,312 จุด และแนวรับที่ระดับ 1,280 จุด หากดัชนีปรับตัวต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว แนะนำให้นักลงทุน “ตัดขาดทุน” เพื่อจำกัดความเสี่ยง

สำหรับหุ้นรายตัวที่น่าสนใจ นายสุเชษฐ์แนะนำ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวรับที่ 19.50 บาท และแนวต้านที่ 21.00–21.30 บาท ขณะที่ราคาหุ้นเคยทำจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนแถวระดับ 21.00 บาท ซึ่งถือเป็นเป้าหมายระยะสั้นของรอบการเก็งกำไรนี้ และมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับสูงสุดเดิม (New High) หากมีแรงซื้อต่อเนื่อง

สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคาร นายสุเชษฐ์มองว่าแนวโน้มยังเป็นบวก โดยเฉพาะ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยให้แนวรับบริเวณ 24.50 บาท และแนวต้านที่ 25.00 บาท หากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 26.50 บาท มองว่าหากรัฐบาลเดินหน้าออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มเติม KTB จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงส์โดยตรงจากการดำเนินงานภาครัฐ

ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มทองคำ ยังคงได้รับแรงหนุนจากทิศทางราคาทองคำโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ บริษัท ออร่า โกลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA ซึ่งมีแรงซื้อเข้ามาอย่างคึกคัก ให้แนวรับที่ 14.30 บาท และแนวต้านที่ 15.00 บาท หากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 15.50–15.80 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเดิมของรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ราคาทองคำโลกยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวเนซุเอลา ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ส่วน บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ให้แนวรับที่ 3.50 บาท แนวต้านใกล้ที่ 3.60 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 3.80 บาท เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

ส่วน บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ให้แนวรับที่ 22.60 บาท และแนวต้านแรกที่ 24.00 บาท หากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 25.00 บาท อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคเริ่มอ่อนแรง ปรับโค้งลงมาที่ระดับราว 61.12 จุด สะท้อนแรงขายบางส่วนในระยะสั้น ราคาต่ำสุดล่าสุดอยู่ที่ 23.10 บาท หากหลุดแนว 23 บาท อาจมีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 22.50 บาท

ในภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ยังมีแนวโน้มอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ PR9 ที่สัญญาณทางเทคนิคชะลอตัว ขณะที่กลุ่ม ธนาคารและทองคำ กลับมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่า เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศและสถานการณ์ต่างประเทศ

ทั้งนี้ นายสุเชษฐ์ ได้ให้มุมมองต่อทิศทางนโยบายการเงินและการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยประเมินว่า โอกาสที่รัฐบาลจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นยังมีจำกัด เนื่องจากนโยบายการคลังและนโยบายการเงินยังอยู่ในช่วงการปรับจังหวะเพื่อให้สอดคล้องกัน มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ เพื่อรอดูทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำสำคัญในช่วงปลายปี

นายสุเชษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนโยบายการคลังเพิ่งเริ่มขับเคลื่อน หากเร่งลดดอกเบี้ยในช่วงนี้อาจไม่สอดประสานกันและทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขาดประสิทธิภาพ

โดยสรุป บล.เอเอสแอล ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แต่ยังเปิดโอกาสเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยเฉพาะตัวโดดเด่น โดยเฉพาะ TIDLOR, KTB, AURA และ WSA ที่ยังคงเป็นหุ้นเด่นน่าติดตามในช่วงสัปดาห์นี้

Back to top button