โบรกแนะ “ซื้อ” MINT เป้า 39 บาท ลุ้นกำไร Q3 โต 6% รับธุรกิจโรงแรมยุโรป-มัลดีฟส์ฟื้นตัว

บล.เกียรตินาคินภัทร แนะ “ซื้อ” หุ้น MINT ราคาเป้าหมาย 39 บาท คาดกำไรหลักไตรมาส 3/68 เติบโต 6% รับอานิสงส์ธุรกิจโรงแรมยุโรปและมัลดีฟส์ฟื้นตัว


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 39 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานหลักในไตรมาส 3/68 จะเติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท

สำหรับธุรกิจโรงแรมในยุโรป คาดว่ารายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) จะขยายตัวเล็กน้อย 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบในรูปเงินบาท) โดยเป็นผลมาจากจากฐานที่สูงในปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยจากงานอีเวนต์ใหญ่ในเดือนกรกฎาคม 2567 เช่น ฟุตบอลยูโร 2024

ขณะที่โรงแรมในไทย คาดว่ารายได้ต่อห้องว่าง (RevPAR) จะลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวลง รวมถึงผลกระทบจากการปิดปรับปรุงโรงแรมขนาดใหญ่ในประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ KKPS ระบุว่า หากไม่รวมผลกระทบจากการปรับปรุงดังกล่าว RevPAR ของโรงแรมในประเทศไทยจะเติบโตในระดับทรงตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่ RevPAR ของโรงแรมในมัลดีฟส์ มีแนวโน้มเติบโตสูงถึง 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบในรูปเงินบาท) ส่วนรายได้ต่อห้องว่าง (RevPAR) ในภาพรวมของโรงแรมที่บริษัทฯ ถือครองเองและเช่าอยู่ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน (ในรูปเงินบาท)

ด้านธุรกิจอาหาร ฝ่ายวิเคราะห์ คาดว่ายอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales: SSS) ทั้งในประเทศไทยและจีน จะฟื้นเป็นระดับทรงตัวจากปีก่อน หลังลดลง 3% และ 7% ตามลำดับ ในไตรมาส 2/68 ขณะที่ EBITDA margin จะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 28.8% จาก 28.6% ในไตรมาส 3/67

นอกจากนั้นแล้ว ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (Interest Expense) มีแนวโน้มลดลงถึง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1% จากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลมาจากระดับหนี้สินที่ลดลง อย่างไรก็ตาม KKPS คาดว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์จะหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ สำหรับทิศทางในอนาคต ฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่า RevPAR ของโรงแรมในยุโรปมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จาก -3% ในเดือนกรกฎาคม 2568 สู่การเติบโต 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในเดือนสิงหาคม-กันยายน และคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นในไตรมาส 4/68 เมื่อฐานรายได้กลับสู่ภาวะปกติ

ในขณะเดียวกัน โรงแรมในไทยส่วนใหญ่จะปรับปรุงเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายน โดย RevPAR ในช่วงเทศกาลปลายปี (ช่วงเดือนธันวาคม) น่าจะขยายตัว 7-9% จากปีก่อน อิงจากข้อมูลการจองล่วงหน้า ส่งผลให้ RevPAR ของโรงแรมในประเทศไทย จะเติบโตทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสสุดท้ายของปี

ด้านโรงแรมมัลดีฟส์ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า จะมีการเติบโตในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะหนุนให้กำไรหลักในไตรมาสสุดท้ายสูงกว่าไตรมาส 3/68

ทั้งนี้ MINT คาดการณ์ว่า ในปี 2569 ราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ของโรงแรมในประเทศไทยจะขยายตัวราว 1-5% หลังการปรับปรุงโรงแรมแล้วเสร็จ

Back to top button