“กัณฑรา” ชี้จับตาการเมือง-นโยบาย “กนง.” แนะสะสม ADVANC–TISCO–GULF

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ประเมินว่า SET มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน 1,300 จุด แม้ยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ท่ามกลางความเป็นไปได้ของการยุบสภาหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ และนโยบายของ กนง. คาดว่าจะลดดอกเบี้ย พร้อมแนะนำจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งอย่าง ADVANC–TISCO–GULF


นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ในวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2568) ว่า ตลาดยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะไร้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง โดยสะท้อนผ่านปริมาณการซื้อขายเมื่อวานที่อยู่เพียงราว 23,000 ล้านบาท แม้ว่าดัชนีตลาดจะอ่อนตัวลง แต่เป็นการปรับฐานที่เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกมากกว่าการปรับตัวลดลงอย่างหนักพร้อมแรงขายหนาแน่น

นายกัณฑรา กล่าวต่อว่าในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่าแม้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระยะสั้น แต่คาดว่าจะกระทบต่อ GDP เพียงราว 0.1-0.5% หรือคิดเป็นความเสียหายประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันระดับน้ำที่เริ่มลดลงทำให้ประเทศเข้าสู่ช่วงฟื้นฟู ซ่อมสร้าง และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ได้มากขึ้นในระยะถัดไป

ส่วนด้านปัจจัยการเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อตลาดทุน ความเป็นไปได้ของการยุบสภามีน้ำหนักมากขึ้น ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมที่กระทบฐานเสียงของรัฐบาลในภาคใต้ ส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลอาจต้องเร่งใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาและเรียกศรัทธาประชาชน ก่อนพิจารณากำหนดยุบสภาในช่วงกลางเดือนธันวาคม

ทั้งนี้ หากเกิดขึ้นจริงจะนำไปสู่การเลือกตั้งเร็วและช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน อย่างไรก็ตาม หากยุบสภาล่าช้าจนถึงปลายเดือนมกราคม รัฐบาลอาจเผชิญแรงกดดันจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากเสียงสนับสนุนไม่มั่นคง ขณะที่ฝ่ายค้านจะเดินหน้ากดดันอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นเช่นกัน

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กลางเดือนธันวาคม  มองว่ามีโอกาสสูงที่กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว และผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้

รวมไปถึงตลาดยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 9–10 ธันวาคม ซึ่งมีความเป็นไปได้มากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย หากทั้งสองเหตุการณ์ออกมาตามคาด จะเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยดึงกระแสเงินทุนกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี

ส่วนทิศทางกองทุนรวม แรงขายในช่วงก่อนหน้าเกิดจากการไถ่ถอนของนักลงทุนเพื่อย้ายเงินลงทุนไปยังกองทุนตราสารหนี้หรือกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ โดยมักมีเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่กองทุนหุ้นไทยช่วงปลายเดือนธันวาคม ซึ่งแม้ไม่ใช่เม็ดเงินจำนวนมาก แต่สามารถช่วยพยุงตลาดและลดแรงขายในช่วงปิดปีได้

นายกันฑราเน้นย้ำว่า เมื่อเข้าสู่ประเด็นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเดือนสุดท้ายของปี การลงทุนเชิงกลุ่มยังทำได้ยาก จึงควรใช้กลยุทธ์ Selective Buy หรือการเลือกลงทุนรายตัว โดยเน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแรง ราคาปรับฐานลึก ค่า P/E ต่ำ และมีราคาเป้าหมายสูงกว่าราคาปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับหุ้นที่มีความน่าสนใจในช่วงนี้ ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ,บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO และบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มน้ำมันในระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังประเมินว่าปีหน้าจะเกิดภาวะ Oversupply ทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัวและจำกัดโอกาสสร้างผลตอบแทน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงรอความชัดเจนจากทั้งปัจจัยการเมืองและดอกเบี้ยนโยบาย แต่หากปัจจัยเหล่านี้ออกมาตามคาด นายกันฑรามองว่าดัชนีมีโอกาสกลับขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้อีกครั้งในช่วงก่อนเปิดศักราชใหม่

Back to top button