BIG โชว์ตัวเลข Q2/59 พลิกกำไรกว่า 180 ล้าน!ลุ้นกำไรปีนี้นิวไฮ หลังเข้าไฮซีชั่น-รับงานใหญ่เพียบ

BIG โชว์ Q2/59 พลิกกำไร หลังยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากความนิยมของคนยุคใหม่ เก็งผลงานครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังเข้าช่วงไฮซีซั่น-อีเวนท์ 2 งานใหญ่หนุนทั้งปีกำไรนิวไฮ ด้าน P/E ยังต่ำกว่ากลุ่ม ล่าสุดอยู่ที่ 27.52 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มพาณิชย์ซึ่งอยู่ที่ 32.41 เท่า โบรกฯ ชูเป้า 4.80 บาท/


BIG โชว์ตัวเลข Q2/59 พลิกกำไร หลังยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากความนิยมของคนยุคใหม่ เก็งผลงานครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังเข้าช่วงไฮซีซั่น-อีเวนท์ 2 งานใหญ่หนุนทั้งปีกำไรนิวไฮ  ด้าน P/E ยังต่ำกว่ากลุ่ม ล่าสุดอยู่ที่ 27.52 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มพาณิชย์ซึ่งอยู่ที่ 32.41 เท่า โบรกฯ ชูเป้า 4.80 บาท

บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 มีกำไรสุทธิ 185.67 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2.80 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.0008 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 419.87 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5.66 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.002 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกกำไรเนื่องจากยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ

 

ด้าน นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ BIG เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งบริษัทเตรียมจัด 2 อีเว้นท์ใหญ่ประจำปี พร้อมโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพค่ายยักษ์ใหญ่ เพื่อกระตุ้นยอดขายภายในงาน โดยในเดือนกันยายน เตรียมจัดงาน Big Camera Big Pro Days ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นงานที่บริษัทจัดขึ้นเอง และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยมตลอด และในเดือนพฤศจิกายน เตรียมเข้าร่วมงาน Photo Fair 2016 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ตลาดกล้องถ่ายภาพยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ค่ายกล้องถ่ายภาพยักษ์ใหญ่อย่าง Fuji  หรือ Olympus เตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมั่นใจว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตเกิน 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 4,767 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจใหม่ที่บริษัทได้จับมือกับ ฟูจิฟิล์ม ผู้นำนวัตกรรมด้านภาพถ่าย  เปิดตัว“วันเดอร์ โฟโต้ ช็อป บาย บิ๊ก คาเมร่า (Wonder Photo Shop by Big Camera)” แฟลกชิพ สโตร์ด้านการถ่ายภาพและพิมพ์ภาพครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการเติบโตของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคดิจิตอล

“รายได้ และกำไร ของบริษัทในปี 2559 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากยอดขายกล้องที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน Big Camera มีสาขาในเครือกว่า 245 แห่ง ครอบคลุมการให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ และเตรียมแผนขยายสาขา “วันเดอร์ โฟโต้ ช็อป บาย บิ๊ก คาเมร่า”ในปีนี้  ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟน ได้อย่างลงตัว ช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายธนสิทธิ์ กล่าว

 

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ส.ค.) ว่า BIG รายงานกำไรสุทธิที่ 186 ล้านบาท (ลดลง 21%จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 162%จากปีก่อน) ดีกว่าที่คาดไว้ 5% โดยกำไรที่โดดเด่นยังคงหนุนยอดขายที่โตแรง 30%จากปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นรวมกลับ rebate ทียังทำได้ดีอยู่ที่ 36.7% กำไรครึ่งปีแรกของปี 59 คิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี 2559

โดยหากพิจารณา seasonality impact ของตลาดกล้องที่ครึ่งหลังจะดีกว่าครึ่งแรก ทำให้คาดว่าประมาณการปี 2559 ยังสมเหตุสมผล อย่างไรก็ดีราคาหุ้นที่ขึ้นอย่างร้อนแรง ได้สะท้อนกำไรของปี 2559 ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรระยะสั้นและหาจังหวะสะสมหากราคาอ่อนตัว 

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังของปี 59 ยังดีแต่ตลาดรับรู้ไปแล้วต้องรอการเติบโตรอบใหม่ โดยตลาดกล้องปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้ทั้งปี และหนุนให้กำไรครึ่งหลังแตะระดับสูงสุดอีกครั้ง อย่างไรก็ดีเราประเมินว่าตลาดได้รับรู้ไปแล้ว การเติบโตที่จะเหนือกว่าประมาณการปัจจุบันจะต้องมาจาก

1) การปรับปรุงธุรกิจมือถือกว่า 25 สาขาให้กลับมาทำกำไร

2) การสร้างธุรกิจ print ให้เกิดขึ้น

3) การปรับเพิ่มอัตรากำไรได้มากกว่าคาด ซึ่งปัจจัยทั้ง 3 ยังต้องอาศัยระยะเวลาในการทำอีกสักระยะหนึ่ง

ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ถือ” และปรับไปใช้ราคาสิ้นปี 2560 และปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมสิ้นปี 2560 ที่ 4.80 บาท/ หุ้น อิง PER 16.5เท่าความเสี่ยงสำคัญ คือตลาดกล้องฟื้นตัวไม่ยั่งยืน

ด้านราคาหุ้น BIG ปิดตลาดวานนี้ (8 ส.ค.) อยู่ที่ 4.50 บาท ปรับตัวลง 0.34 บาท หรือ 7.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 575.47 ล้านบาท 

Back to top button