
“พรรคประชาชน” เคาะหนุน “อนุทิน” นั่งนายกใหม่ ตั้ง 5 เงื่อนไขต้องทำตาม
พรรคประชาชน มีมติโหวต “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนใหม่ วาง 5 เงื่อนไขเข้ม ตั้งกรอบยุบสภาใน 4 เดือน เร่งเดินหน้ารัฐธรรมนูญใหม่ และย้ำจุดยืนฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า วันนี้ (3 ก.ย.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำแถลงผลการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคประชาชน โดยสรุประบุว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา พรรคประชาชนจึงเห็นว่า หากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งเสี่ยงให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งขัดต่อหลักการที่พรรคประชาชนยึดถือ
ตลอด 5 วันที่ผ่านมานี้ จากการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของ 2 พรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชน และกลไกในการควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องรักษาสัญญาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค คณะทำงานของพรรค ผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว
วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่า “หากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบ แก่คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย”
โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
- นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)เป็นการทั่วไป
- ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นจะต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 256 คณะรัฐมนตรี ชุดใหม่จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สส.
- ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ไม่จำเป็นจะต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย จะต้องเร่งผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ โดยสสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว
- เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะยุบสภา พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อทำให้ตนเองเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
- พรรคประชาชนยืนยันจะดำรงตัวเองในสถานะพรรคฝ่ายค้านต่อไป โดยทำหน้าที่ ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มติของกรรมการบริหารพรรคประชาชนดังกล่าว จะมีผลก็ต่อเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันนี้ และมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ
“ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ผมขอยืนยันต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ของพวกเรา ไม่ได้ตัดสินใจ โดยใช้ข้อคิดเห็น หรือความนิยม ผลประโยชน์ของพรรคประชาชน เป็นตัวตั้ง พวกเราตัดสินใจโดยมีเป้าหมาย เพื่อจะนำพาประเทศ ไปสู่ทางออก ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย แบบรัฐสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวด้วยว่า การกำหนดเงื่อนไขครั้งนี้ถือเป็นหลักประกันสำคัญที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องแบกรับ “ต้นทุนทางการเมือง” สูงที่สุด หากคิดจะผิดคำมั่นสัญญาต่อประชาชนอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาได้เห็นแล้วว่าประชาชนลงโทษพรรคการเมืองที่ตระบัดสัตย์อย่างไร ดังนั้น พรรคประชาชนจะทำหน้าที่กำกับติดตามอย่างใกล้ชิด หากนายอนุทินลงนามและมีการแถลงต่อสาธารณะ แม้ถ้อยคำหรือลายลักษณ์อักษรอาจถูกตีความหรือบิดเบือนได้ แต่ก็เป็นต้นทุนที่ต้องแลกมา