
ปปง.ลุยยึดทรัพย์ “ยิม เลียก–เบน สมิธ–เฉิน จื้อ–ก๊ก อาน” แย้มมีสอยหุ้น BCP ด้วย 6 พันล้าน
ปปง.–ตำรวจ–ยุติธรรม–ดีอี แถลงยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” อายัดทรัพย์กว่า 1 หมื่นล้านบาท ตรวจเส้นเงินโยงหลายบัญชี ขณะนายกฯ สั่งเพิกถอนสัญชาติของ “ยิม เลียก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค. 68) สืบเนื่องจากคณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติในการประชุมครั้งที่ 13/2568 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งดำเนินการเป็นองค์กรข้ามชาติ รวม 4 คดี มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นกรณีที่มี นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) แห่งบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) นายก๊ก อาน (Mr. Kok An) รวมถึงนางสาวแตงไทย ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายยิม เลียก (Leak Yim) ผู้ใกล้ชิดกลุ่มอิทธิพลในกัมพูชา

เวลา 14:27 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงผลปฏิบัติการยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” พร้อมยึด–อายัดทรัพย์สินกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการปปง.
พล.ต.ท.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มจากข้อมูลประชาชนที่แจ้งผ่านกระทรวงดีอี พบว่า ในปี 2564 มีผู้เสียหายราว 700 รายถูกหลอกลวงออนไลน์ และเมื่อไล่เส้นเงินพบว่าบัญชีผู้เสียหายถูกโอนไปยังบัญชีม้า แถวที่ 1-5 ก่อนกระจายต่อไปยังบัญชีธนาคาร 2 แห่ง โดยบัญชีแรกมีเงินไหลผ่านกว่า 3,000 ล้านบาท จากการโอนประมาณ 300 ครั้ง ปลายทางเชื่อมโยงถึงนายยิม เลียก ส่วนอีกบัญชีพบความเสียหาย 154 ล้านบาทจากการโอนไปยังบัญชีม้า โดยผู้รับผลประโยชน์สุดท้ายคือกลุ่มนายยิม เลียก เช่นกัน
จากการสืบสวน ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายกว่า 40 ราย ออกหมายจับรวม 42 ราย จับกุมแล้ว 29 ราย และยังหลบหนี 13 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายอยู่ต่างประเทศ ได้แก่ นายยิม เลียก, ภรรยา และผู้ต้องหาชาวกัมพูชาที่ทำหน้าที่ม้า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายเบน สมิธ พล.ต.ท.โสภณ ระบุว่า ยังไม่มีหมายจับในขณะนี้ แต่ปปง. อยู่ระหว่างตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่อง โดยเส้นเงินที่พิสูจน์ได้ขณะนี้เชื่อมโยงถึงนายยิม เลียก และภรรยา ซึ่งถูกออกหมายจับแล้ว
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายยิม เลียก ได้รับสัญชาติไทยจากการสมรสกับภรรยาชาวไทย และได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการเพิกถอนสัญชาติแล้ว
ด้านนายเทพสุ เลขาธิการปปง. กล่าวว่า นางสาวแตงไทยทำหน้าที่เป็นม้า ได้รับมอบอำนาจทำธุรกรรมกับธนาคาร และในช่วงปี 2560–2565 พบการทำธุรกรรมเข้าสู่บัญชีของกลุ่มนายยิม เลียก ภรรยา และนายเบน สมิธ รวมมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท จากการไล่เส้นเงินพบว่ามีการตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปซื้อทรัพย์สินและฟอกเงินในรูปแบบต่าง ๆ
ปปง. ได้ยึด–อายัดทรัพย์สินหลายรายการ ทั้งที่ดิน ห้องชุด หุ้น เงินในบัญชีธนาคาร รถยนต์ 3 คัน และเรือ โดยเฉพาะทรัพย์สินในเครือข่ายนี้มีมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในเอกสารประกอบการแถลงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุผลการตรวจยึด–อายัดของกลางจากปฏิบัติการครั้งนี้รวมมูลค่า 10,157 ล้านบาท ประกอบด้วยรถยนต์หรู 8 คัน มูลค่า 78 ล้านบาท เรือยอชต์ 1 ลำ มูลค่า 800 ล้านบาท เงินสดในบัญชีรวม 1,170 ล้านบาท ที่ดิน 3 แปลง และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 6 บัญชี มูลค่ารวม 8,109 ล้านบาท โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นการสรุปของกลางภาพรวมจากหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียด “หุ้น” ที่ถูกอายัด เลขาธิการปปง. ระบุว่า มีหลายรายการ แต่รายการใหญ่ที่สุดคือหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ซึ่งถูกอายัดหลังตรวจสอบแล้วว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตามกรอบพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรม 90 วัน และเปิดสิทธิให้พิสูจน์ 30 วัน โดยหุ้น BCP ที่ถูกอายัดมีมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568
ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปตามการแถลงของ สำนักงานปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ วันที่แถลงข่าว
ที่มา : เฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปปง.ยึดทรัพย์สแกมเมอร์ข้ามชาติ “เฉิน จื้อ–ก๊ก อาน–เครือข่ายเบน สมิธ” หมื่นล้านบาท

