เลือกเล่น 7 หุ้นร้อน แรงหนุนกองทุนรวม – Window Dressing ดัน SET ไปต่อ

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideway Up แม้มีแรงกดดันจากตลาดต่างประเทศ แต่เชื่อว่าแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว รวมถึงกองทุนรวม LTF, RMF และ Window Dressing จะช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง การลงทุนคาดว่าจะกระจายไปในหลายกลุ่ม เช่นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/60 ดี ได้แก่กลุ่มพลังงาน, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มธนาคาร


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.53 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน จากความวิตกกังวลที่ว่า การผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ อาจเผชิญอุปสรรค หลังจากวุฒิสมาชิก 2 รายจากพรรครีพับลิกันได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideway Up แม้มีแรงกดดันจากตลาดต่างประเทศ แต่เชื่อว่าแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว รวมถึงกองทุนรวม LTF, RMF และ Window Dressing จะช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง การลงทุนคาดว่าจะกระจายไปในหลายกลุ่ม เช่นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/60 ดี ได้แก่กลุ่มพลังงาน, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มธนาคาร หุ้นเด่นเลือก PTTGC, CPALL, THANI, WHA, SKY, BCPG และ SEAFCO

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทย (15 ธ.ค.) มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideway Up ต่อเนื่อง แม้ช่วงเช้าอาจแกว่งตัวหลังตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลดลง จากความกังวลเรื่องร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงสามารถปิดทำการในแดนบวกได้ และดัชนียังมีโอกาสทดสอบระดับ 1,720 จุด จากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว

นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่องในช่วงปลายปี รวมถึงการปรับพอร์ตของกองทุนต่าง ๆ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 ดัชนี SET100 ชุดใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 61 และการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index ซึ่งจะมีผลในวันที่ 18 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความคืบหน้าของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯว่าจะผ่านได้ในสัปดาห์หน้าตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ ขณะที่การลงทุนของต่างชาติในช่วงนี้อาจไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก แม้จะยังมีแรงขายต่อเนื่องแต่ก็เริ่มเห็นการชะลอตัวลงหลังเข้าใกล้ช่วงสิ้นปี พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,710 และ 1,707 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,722 จุด

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) เนื่องด้วยมุมมองภาพตลาดในวันนี้ที่เป็นบวก และคาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์หน้า …. กลยุทธ์ลงทุน จึงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยการเข้าลงทุน (ซื้อ) ยังต้องเลือกเป็นรายตัว เน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว, หุ้นที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้น, หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว, และเก็งกำไรในหุ้นที่ได้มีการเข้า SET 50, SET 100 วันนี้ เราให้ความสนใจกับ WHA เนืองจากได้ประโยชน์จาก EEC ด้วย สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ  PTTGC, CPALL, THANI, WHA หุ้นแนะนำทางเทคนิค SKY, BCPG, SEAFCO

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ประเมิน SET วันนี้ปรับตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปจากประเด็นปฎิรูปภาษีสหรัฐใกล้ได้ข้อสรุป ด้านสถาบันยังเข้ากระจายซื้อหุ้น Big Cap ต่อเนื่องทั้งแรงหนุนจาก LTF และ Window Dressing ในช่วงท้ายซึ่งการปรับตัวขึ้นของ SET มีการกระจายไปในหลายๆ กลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 4/60 คาดว่าจะดีทั้งกลุ่มพลังงาน กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มธนาคาร

Back to top button