SET บ่ายยืนบวกแต่ upside จำกัดพร้อมคัด 12 หุ้นเด่น 3 กลุ่มต่อเนื่อง

โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (15 ก.พ.) ดัชนีฯยืนบวกได้แต่ upside อาจจำกัด ให้แนวรับ 1,270 แนวต้าน 1,290-1,300 จุด โดยกลยุทธ์หลังยังเน้นหุ้น 3 กลุ่มต่อเนื่องจากรายงาน The Early Bird


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (15 ก.พ.) ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รับอานิสงส์ Sentiment บวกนอกประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันพุ่งแรงกว่า 12% ขณะที่ตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่บวก ส่วนบ่ายนี้คาดตลาดฯ ยืนบวกได้แต่ upside อาจจำกัด ให้แนวรับ 1,270 แนวต้าน 1,290-1,300 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้รับอานิสงส์จาก Sentiment บวกจากภายนอกประเทศจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 12% ดันหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ดี แต่ตลาดฯยังมีความผันผวนระหว่างทาง เพราะนักลงทุนยังเฝ้าติดตามเศรษฐกิจโลก และเช้านี้ตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของจีนออกมาแย่กว่าคาด แต่ตลาดหุ้นจีนยังได้เงินหยวนแข็งค่าหนุน หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่ามาก

สำหรับตัวเลข GDP งวดไตรมาส 4/58 ของไทยถือว่าออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ก็ต้องรอตืดตามในระยะยาวต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งเศรษฐกิจไทยที่ทรงตัวนี้ถือว่าไม่ได้ตื่นเต้นมาก ดังนั้น จึงยังไม่เห็นประเด็นที่จะผลักดันให้ตลาดฯฟื้นอย่างชัดเจน ตลาดฯจึงมี upside ที่จำกัดอยู่

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ติดลบหลังจากลับมาเปิดทำการอีกครั้ง เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดทำการในช่วงตรุษจีน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯคงจะยืนในแดนบวกได้ต่อ แต่ upside น่าจะจำกัด โดยมีแนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1,300 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 15 ก.พ.) ว่า SET ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมัน โดยเราคงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,320-1,350 จุด เหมือนเดิม ขณะที่ระยะสั้นลุ้นเกิดสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิคเมื่อทะลุ 1,290 จุด โดยกลยุทธ์ หลังยังเน้นหุ้น 3 กลุ่มต่อเนื่องจากรายงาน The Early Bird ได้แก่

1) High Dividend Yield: มองดอกเบี้ยในประเทศยังต่ำที่ 1.5% ไปจนถึงสิ้นปีนี้ แนะนำ “ซื้อ” INTUCH ADVANC KTB และ REIT/INFRA Fund อย่าง CPNRF BTSGIF

2) กำไรเติบโตดี และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ: โดยเฉพาะกลุ่ม Micro Finance และ Leasing อย่าง GL TISCO KKP สำหรับ TISCO และ KKP คาดการณ์ปันผลสูง 4.5-5.0% สำหรับงบปี 58 (ยังไม่ประกาศ) และเพิ่มขึ้นเป็น 5-5.7% ในปี 2016

3) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว: และ Valuation ต่ำอย่าง PTT ขณะที่ TOP PTTGC ได้รับผลดีค่าการกลั่นสูง และ SGP คาดการณ์กำไร ไตรมาส 4/58 พลิกกลับจากขาดทุนในช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับ GDP ไตรมาส 4/58 ขยายตัว +2.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนใกล้เคียงคาด ส่งผล GDP ปี 58 +2.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่ดีขึ้น (การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตรส่งผลให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อรถ)

ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปี 59 ลงเหลือ 2.8-3.8% (เดิม 3-4%) จากความเสี่ยงการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ขณะที่ TNS คาดเศรษฐกิจจะเติบโต +3.3% ในปีนี้ โดยการเร่งตัดสินใจซื้อรถยนต์ในช่วงไตรมาส 4/58 คาดว่าจะทำให้การบริโภค (Durable Goods) ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 1/59 ขณะที่ปัญหาภัยแล้งจะเป็นตัวกดดันรายได้ภาคการเกษตรต่อไปปีนี้

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 1,386.95 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,263.62 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท ลดลง 2.70 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,161.27 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

TOP   มูลค่าการซื้อขาย 707.79 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท    

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 543.86 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

Back to top button