“พิชัย” ยันรัฐเตรียมซอฟต์โลน 2 แสนล้าน เยียวยา เอสเอ็มอี–เกษตรกร รับมือภาษีทรัมป์

รองนายกฯ “พิชัย” เผยเตรียมวงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ ผ่านธนาคารรัฐ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.01% พร้อมหารือธนาคารพาณิชย์เพื่อออกมาตรการเสริม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ค.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาการค้าและภาษีกับสหรัฐอเมริกา (หัวหน้าทีมไทยแลนด์) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “กรอบเจรจาและรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์” ในงานเสวนาโต๊ะกลม “กรุงเทพธุรกิจ Roundtable: The Art of The (Re) Deal” จัดขึ้นที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็กชั่น โฮเทล

ภาพ : กระทรวงการคลัง

นายพิชัย กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี (SMEs) และเกษตรกรอย่างตรงจุด ปัจจุบัน เอสเอ็มอี (SMEs) มีทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐดูแล ส่วนเกษตรกรส่วนใหญ่พึ่งพาธนาคารของรัฐ ซึ่งภาครัฐได้เตรียมซอฟต์โลน (Soft Loan) หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงินประมาณ 200,000 ล้านบาท ใช้ความเข้มแข็งทางการเงิน (balance sheet) ของธนาคารรัฐเป็นฐาน โดยอัตราดอกเบี้ยเป็นซอฟต์จริง ๆ ในระดับ 0.01% เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือ

“สถาบันการเงินที่จะช่วยเหลือต้องเข้าใจลูกค้าว่าจะช่วยด้านสภาพคล่อง การลงทุนเพื่อปรับโครงสร้าง หรือช่วยถือครองสินค้าคงเหลือในช่วงสุญญากาศเศรษฐกิจ” รองนายกฯ กล่าว พร้อมระบุว่า สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ รัฐบาลได้หารือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อรวบรวมข้อมูล และเตรียมมาตรการที่เหมาะสม หากความช่วยเหลือที่ธนาคารให้ได้ไม่เพียงพอ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มมาตรการสนับสนุนโดยตรง

ด้านการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ นายพิชัย กล่าวว่า ทุกข้อเสนอจะมีผลผูกพันระยะยาว ดังนั้นเราต้องคิดให้รอบคอบ แนวทาง (approach) ที่ใช้ต้องเป็น win-win solution แม้ผู้เจรจาฝั่งตรงข้ามอาจไม่มองว่าเป็น win-win แต่เราต้องประคองวิธีคิดนี้ไว้

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาต่างประเทศ และเร่งสร้างความเข้มแข็งภายใน เราต้องใช้สิ่งที่เรามี, ผลิตและส่งออกเอง นี่คือการแก้โจทย์ที่ต้องเปลี่ยนวิธีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ รองนายกฯ กล่าวถึงประเด็นข้อเจรจาที่มีลักษณะคล้ายความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งตามหลักอาจต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ว่า แม้บางเงื่อนไข เช่น เรื่องอัตราภาษี อาจดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสภาฯ แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมแล้ว คิดว่าอย่างไรก็ต้องเข้าสภาฯ

นายพิชัย ยังเน้นว่า การทำให้สาธารณชนรับรู้และเข้าใจถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ “ยาหวาน” แต่เป็น “ยาขม” ที่ทุกประเทศต้องเผชิญ เพราะฉะนั้นต้องทำความเข้าใจและเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ ยอมรับว่าไม่มีการเจรจาใดได้ผลลัพธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ การได้บางอย่างอาจต้องแลกกับการสูญเสียบางอย่าง ไม่มีอะไรได้ทั้งหมด

Back to top button