“ออมสิน” เร่งเครื่องครึ่งปีหลัง ปล่อยซอฟต์โลนแสนล้าน ดึง AI เสริมทัพ

ธนาคารออมสิน พร้อมออกซอฟต์โลนใหม่แสนล้าน ดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อส่งต่อให้ผู้ประกอบการ พร้อมดึง AI เสริมทัพ ยกระดับบริการ SMEs และคนฐานราก สู่เป้าหมายสร้าง Social Impact ช่วยคนไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ย.68) นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2568 ยังเผชิญแรงกดดันทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกที่ชะลอจากนโยบายภาษีทางการค้าและการท่องเที่ยวที่หดตัว ขณะเดียวกันยังมีปัญหาโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินในระบบ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs ประชาชนกลุ่มฐานราก และผู้ประกอบการรายย่อย

นายวีระชัย กล่าวว่า ธนาคารออมสินพร้อมทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์ทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือและประคับประคองผู้ประกอบการ SMEs ให้ฟื้นตัวและก้าวข้ามช่วงเวลาที่ท้าทาย โดยทำหน้าที่เป็น “แหล่งทุนต่อยอด” เสริมสภาพคล่อง เติมทุน และฟื้นฟูกิจการอย่างยั่งยืน

ล่าสุด ธนาคารเตรียมออกโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน (Soft Loan) เพิ่มเติม วงเงินโครงการ 100,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปี ให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการนำไปปล่อยต่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.50% ต่อปี ใน 2 ปีแรก เพื่อเสริมสภาพคล่องและพัฒนาศักยภาพธุรกิจไทยให้เข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้

ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้ดำเนินโครงการสินเชื่อสำคัญหลายโครงการ เช่น สินเชื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ GSB D-Home สร้างบ้านเพื่อคนไทย วงเงิน 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 3.50% ต่อปี อนุมัติแล้ว 6,000 ล้านบาท และซอฟต์โลน GSB Boost Up Plus วงเงิน 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 2.99% ต่อปี อนุมัติแล้ว 98,700 ล้านบาท รวมถึงโครงการใหม่ อาทิ ซอฟต์โลนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย และโครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องประมง ระยะ 3 วงเงินโครงการ 2,000 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการประมงและสนับสนุนนโยบายรัฐด้านการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

ควบคู่กันนี้ ธนาคารยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ทั้งผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือผ่าน 3 ภารกิจสำคัญ ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินผ่านนวัตกรรมสินเชื่อเพื่อสังคมกว่า 680,000 ราย การแก้ไขปัญหาหนี้ที่ช่วยลูกหนี้ไม่ให้เสียประวัติทางการเงินกว่า 800,000 ราย และการพัฒนาศักยภาพชุมชนผ่านการสร้างอาชีพและส่งเสริมการออม โดยมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 250,000 ราย

นอกจากนี้ ธนาคารยังเดินหน้าขยายผลสร้าง Social Impact อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ผ่าน 4 ภารกิจหลัก ควบคู่กับการบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI เข้ามายกระดับการดำเนินงานและการให้บริการทางการเงิน ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ “AI Optimized Loan Processing and Underwriting” ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดระยะเวลาอนุมัติและต้นทุนการดำเนินงาน และ “AI Chatbot for Branch” ผู้ช่วยพนักงานสาขาในการค้นหาข้อมูลอย่างสะดวกและแม่นยำมากขึ้น โดยจะเริ่มใช้งานในไตรมาส 4 ของปีนี้ เพื่อยกระดับบริการทางการเงินครบวงจร และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

แท็ก :

Back to top button