“ภราดร”แย้มข่าวดี! จ่อเปิด “คนละครึ่งพลัส” รับเงินสูงสุด 2,400 บ. ควบมาตรการพักหนี้แสนบาท

“ภราดร ปริศนานันทกุล” เผยรายละเอียด “คนละครึ่งพลัส” ล่าสุด ครอบคลุม 33 ล้านสิทธิ เปิดลงทะเบียนต้น ต.ค. พร้อมเดินหน้าแผน พักหนี้รายย่อยไม่เกิน 1 แสนบาท ครอบคลุมหนี้เกษตรกร–ธนาคารรัฐ

29 ก.ย. 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ย.68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงบประมาณ เปิดเผยในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงรายละเอียดโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ว่าโครงการดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน รัฐเติมเงินเพิ่มงวดเดียว 1,700 บาท จากสิทธิเดิม 300 บาท โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ใช้งบประมาณปี 2568 วงเงินรวม 22,000 ล้านบาท ผ่าน “กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ” โอนตรงถึงผู้มีรายได้น้อย
ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคนได้สิทธิ 60:40 รัฐบาลสมทบ 2,400 บาท ประชาชนจ่าย 2,000 บาท ใช้ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท
ประชาชนทั่วไป 9 ล้านคน ได้สิทธิ 50:50 รัฐบาลสมทบ 2,000 บาท ประชาชนจ่าย 2,000 บาท ใช้ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท

นายภราดร ระบุว่า สิทธิของกลุ่มผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไป รวมกว่า 20 ล้านคน จะใช้งบปี 2569 ประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยวางไทม์ไลน์เบื้องต้นว่า ประมาณต้นเดือนตุลาคมจะเปิดให้ลงทะเบียน เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิใน “คนละครึ่ง” เฟส 5 และคาดว่าปลายเดือนตุลาคมจะสามารถเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และถุงเงิน (ฝั่งร้านค้า) ส่วนแอปฯ “ทางรัฐ” อยู่ระหว่างดำเนินการให้ใช้ได้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า งบประมาณปี 2568 ที่ยังเหลือประมาณ 62,000 ล้านบาท จะถูกจัดสรรออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ 22,000 ล้านบาทสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่กล่าวข้างต้น และอีก 35,000 ล้านบาทนำไปชำระหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งโครงการจำนำข้าวและชดเชยมันสำปะหลัง

จากนั้น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเจรจากับ ธ.ก.ส. เพื่อลดภาระหนี้และขยับเพดานหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 28 ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% ให้มีช่องว่างมากขึ้นในปี 2569 เพื่อเปิดทางให้นำเงินของธนาคารรัฐไปขับเคลื่อนนโยบายต่อ

ไฮไลต์สำคัญ นายภราดร ย้ำว่า รัฐบาลเตรียมพักหนี้สำหรับผู้มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท ครอบคลุม 1 ล้านสิทธิ ทั้งหนี้เกษตรกรกับ ธ.ก.ส. รวมถึงหนี้กับธนาคารรัฐอื่น เช่น ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยรายละเอียดรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลัง

“ทางรองนายกฯ และรมว.คลัง จะใช้วิธีพักชำระหนี้ขั้นต่ำไม่เกิน 100,000 บาท โดยจำนวนสิทธิอาจขยายเป็น 1–2 ล้านสิทธิ ขึ้นอยู่กับวงเงินที่มี เพื่อให้ประชาชนเข้าสู่ระบบ ส่วนการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเสริมทุนก็กำลังพิจารณาช่องทางต่าง ๆ” นายภราดรกล่าว พร้อมระบุว่า สำหรับหนี้ NPL รัฐบาลจะมีมาตรการรองรับอีกชุดหนึ่งตามมา