กกพ. ส่งสัญญาณตรึงค่าไฟ 3.94 บาท/หน่วย หนุนตามนโยบาย “อรรถพล”

เลขาฯ กกพ. เผยแนวโน้มตรึงค่าไฟงวด “ม.ค.–เม.ย.69” หลังราคาก๊าซทรงตัว ต้นทุนลดลง ระบุ อยู่ระหว่างตรวจสอบภาระหนี้ “PTT–กฟผ.” ก่อนชงเข้าที่ประชุม พร้อมขยับแผน Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ หวังออกหลักเกณฑ์ทันธันวาคมนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ต.ค.68) นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล โดยภายในเดือนตุลาคมนี้ จะเริ่มเรียกข้อมูลจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งรับภาระค่าก๊าซจำนวน 15,000 ล้านบาท และภาระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีก 66,000 ล้านบาท เพื่อประเมินผลกระทบ หากมีการยืดหนี้ออกไปว่าจะก่อให้เกิดภาระดอกเบี้ยเพิ่มเติมอย่างไร รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงและราคาค่าไฟฟ้า เพื่อประกอบการพิจารณาค่าไฟฟ้า งวดเดือนมกราคม–เมษายน 2569

นายพูลพัฒน์ กล่าวว่า โดยปกติช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาว ประเทศทางฝั่งตะวันตกจะมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสูง แต่ปีนี้ประเทศผู้ผลิตได้เร่งการผลิต ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจึงไม่ได้ปรับตัวขึ้นรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา

ดังนั้น การดูแลค่าไฟของไทยให้อยู่ในระดับเหมาะสม หรือคงอัตราค่าไฟฟ้าไว้ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย ตามนโยบายของนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีความเป็นไปได้ แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบและรับฟังความคิดเห็น ก่อนเสนอที่ประชุม กกพ. พิจารณาอีกครั้ง

สำหรับเงินที่ได้จากการเรียกคืนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้า (Claw Back) ซึ่งเป็นส่วนที่ลงทุนไม่เป็นไปตามแผน ปัจจุบันเหลือประมาณ 5,000 ล้านบาท หลังจากงวดเดือนกันยายน–ธันวาคม 2568 ได้ใช้เงิน Claw Back ไปแล้ว 2,600 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าไฟประชาชน จากยอดเดิมราว 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การนำเงินส่วนนี้มาใช้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรณีฉุกเฉิน เช่น ราคาพลังงานผันผวนผิดปกติ หรือค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) เคลื่อนไหวเกินกรอบ

นอกจากนี้ นายพูลพัฒน์ กล่าวถึงนโยบายสัญญาซื้อขายพลังงานโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงานโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) วงเงิน 2,000 เมกะวัตต์ ว่า อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 3–10 ตุลาคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยประเด็นสำคัญที่จะนำมาพิจารณา คือ อัตราค่าการส่งพลังงานไฟฟ้า (Wheeling) ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กกพ. วันที่ 15 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะสรุปผลภายในเดือนพฤศจิกายน และประกาศใช้ภายในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อเป็น “ของขวัญปีใหม่” ให้ภาคเอกชน

“เรากำลังรับฟังความคิดเห็นในประเด็นหลักเกณฑ์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยทั้งหมดจะต้องเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป” นายพูลพัฒน์ กล่าว

พร้อมย้ำว่า ในเฟสแรกของการดำเนินโครงการ Direct PPA จะเริ่มจากไฟฟ้าที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลก่อน จากนั้นจะขยายสู่พลังงานสีเขียวในระยะต่อไป โดยต้องคำนึงถึงคือการให้บริการสายส่งที่ไม่กระทบผู้ใช้ไฟรายเดิม และค่าปรับกรณีการขอใช้ไฟฟ้าที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขเดิม

Back to top button