RICHY กำไร 1Q59 ฟื้นตัวสดใสแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 2.10 บ.

RICHY คาดว่ากำไรสุทธิ ไตรมาส 1/59 ที่ใกล้ประกาศจะฟื้นตัวสดใสมากเป็น 16 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพียง 3 ล้านบาท สาเหตุคือ โครงการคอนโดริชพาร์ค@เจ้าพระยา ถนนไทรม้าที่โอนล่าช้าในงวดไตรมาส4/58 จะมาโอนมากในงวดไตรมาส 1/59


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 พ.ค.) ว่า บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY คาดว่ากำไรสุทธิ ไตรมาส 1/59 ที่ใกล้ประกาศจะฟื้นตัวสดใสมากเป็น 16 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพียง 3 ล้านบาท สาเหตุคือ โครงการคอนโดริชพาร์ค@เจ้าพระยา ถนนไทรม้าที่โอนล่าช้าในงวดไตรมาส4/58 จะมาโอนมากในงวดไตรมาส 1/59

ยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 58 ที่ 890 ล้านบาท หากคิดเฉพาะที่โอนได้ทันในปีนี้เทียบกับประมาณการรายได้ปีนี้ที่ 1.1 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 42% สำหรับส่วนรายได้ที่ต้องเพิ่มมาจากสต็อคที่มีอยู่ 3 พันยูนิต โดยทางบริษัทสามารถใช้กลยุทธ์ผ่อนส่งเพียงเดือนละ 3 พันบาทต่อคอนโดราคา 2 ล้านบาทก็เข้าอยู่ได้ คาดว่าจะขายได้ไม่ยาก เพราะถูกกว่าการไปเช่าคอนโดอยู่เสียอีก ขณะที่สิ้นปี 58 มีสินค้าเหลือขายอยู่อีก 4.3 พันล้านบาท

คาดว่าการเปิดตัวขายคอนโดใหม่ 2 โครงการ ในไตรมาส 2/59 นี้จะสร้างยอดขายได้ดี เพราะมีทำเลที่น่าสนใจและใหญ่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา ได้แก่ 1) เดอะริช @นานา คอนโดไฮเอนด์ มูลค่า 3.7 พันล้านบาท และ 2) ริชพาร์ค @ทริปเปิ้ลสเตชั่น ถ.ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดตัดรถไฟฟ้า 3 สายคือ แอร์พอร์ตลิ้งค์ หัวหมาก สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-หัวหมาก) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มูลค่า 2.7 พันล้านบาท

ส่วนคาดการณ์กำไรตลอดปี 59 เป็น 165 ล้านบาท ฟื้นตัวสูงเทียบกับปี 58 ที่มีกำไรเพียง 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 313% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสำหรับปี 60 มีโครงการ เดอะริช@สาทร-ตากสิน ที่เป็น Backlog รอโอนแล้ว 355 ล้านบาท

แนะนำ ซื้อเก็งกำไร จากแนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวสูง และความสำเร็จในการเปิดขายโครงการใหม่ P/E ปี 59 ซื้อขายที่ 8.8 เท่า หากกำหนดราคาพื้นฐานที่ P/E ปี 59 ที่ 10 เท่า หรือ PEG ที่ 0.03 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 2.10 บาท ยังมีส่วนเพิ่มจากราคาพื้นฐาน 14%

ด้านความเสี่ยงคือ 1) อยู่ในช่วงการเติบโตจึงใช้เงินกู้สูง สิ้นปี 58 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนมากเป็น 1.7 เท่า และ 2) ปีนี้มีค่าใช้จ่ายการโฆษณาการสร้างแบรนด์บริษัทให้เป็นที่รู้จักประมาณ 25 ล้านบาท ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นได้ แต่เราเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่มีผลกระทบมาก เพราะบริษัทอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต

Back to top button