SET ปิดเช้าลบ 1 จุด ไร้ปัจจัยใหม่ แนวโน้มบ่ายแกว่งแคบ

SET ปิดเช้าลดลง 1 จุด แกว่งแคบหลังไร้ปัจจัยหนุน นักลงทุนกลับมากังวล “เฟด” ตรึงดอกเบี้ยสูงยาวหนุน “บอนยีลด์” ดีดขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow และปัจจัยการเมืองในประเทศเกิดความไม่แน่นอน แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งแคบๆ ให้แนวรับ 1,360 จุด แนวต้าน 1,373 จุด


10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าที่ระดับ 1,363.47 จุด ลดลง 1.01 จุด (-0.07%) มูลค่าซื้อขายราว 20,232 ล้านบาท

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบๆ คล้ายตลาดหุ้นเอเชีย เหตุยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ขณะที่นักลงทุนกลับมากังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่าง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาดีกว่าตลาดคาด หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นมา

ขณะที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามาที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง ส่งผลกดดันเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของกลุ่ม 40 สว.ไว้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีความเสี่ยง เพราะอาจกระทบการดำเนินนโยบายภาครัฐในระยะถัดไป

นอกจากนี้ มองประเทศไทยขาดเสน่ห์ หลังจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำในไตรมาสแรก ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวแคบๆ คล้ายช่วงเช้า แนะติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์นี้ (31 พ.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ให้แนวรับไว้ที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,373 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,496.56 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

NEX มูลค่าการซื้อขาย 1,473.67 ล้านบาท ปิดที่ 3.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 649.58 ล้านบาท ปิดที่ 23.50 บาท ลดลง 0.30 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 491.04 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 478.82 ล้านบาท ปิดที่ 3.38 บาท ลดลง 0.16 บาท

Back to top button