ปันผลครึ่งปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ส.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์บวกสวนตลาด นำโดยธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ณ เวลา 10:46 น. อยู่ที่ระดับ 169.00 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 0.90% สูงสุดที่ระดับ 169.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 167.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 888.36 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ เวลา 10:46 น. อยู่ที่ระดับ 156.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 0.64% สูงสุดที่ระดับ157.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 155.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 323.68 ล้านบาท บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ณ เวลา 10.46 น. อยู่ที่ระดับ 129.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 1.17% สูงสุดที่ระดับ 129.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 128.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275.86 ล้านบาท ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP อยู่ที่ระดับ 60.00 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.42% สูงสุดที่ระดับ 60.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 59.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 127.02 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ณ เวลา 10:51 น. อยู่ที่ระดับ 23.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.43% สูงสุดที่ระดับ 23.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 23.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.01 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยแจ้งการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (งวดเดือน ม.ค.-มิ.ย.2568) กันออกมาเกือบครบแล้ว (คงเหลือธนาคารทหารไทยธนชาติ หรือ TTB ) นำโดยบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB ที่ได้รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (128.00 บาท) 1.56%) โดยการจ่ายปันผลครั้งนี้ มาจากกำไรสะสม พร้อมกับกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นที่จะได้รับเงินปันผลต้องมีรายชื่อในวันที่ 3 กันยายน 2568 ขณะที่วันขึ้นเครื่องหมาย วันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) ในวันที่ 2 กันยายน 2568 และบริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กันยายน 2568 ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (167.50 บาท) 1.19%) โดยปันผลดังกล่าวจ่ายจากกำไรสะสมของธนาคาร พร้อมกับกำหนดการรับสิทธิ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลต้องมีรายชื่อในวันที่ 11 กันยายน 2568 และกำหนดวันขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD)ในวันที่ 10 กันยายน 2568 และธนาคารฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 กันยายน 2568 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แจ้งว่า ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (155.50 บาท) 1.28%) กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 10 ก.ย. 2568 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 ก.ย. 2568 และวันที่จ่ายปันผล วันที่ 26 ก.ย.2568 โดยจ่ายปันผลจากกำไรสะสม ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (23.50 บาท) 1.70%) โดยเงินปันผลดังกล่าวจ่ายจากกำไรสะสมของธนาคาร ทั้งนี้ กำหนดวันขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล ( XD) ในวันที่ 10 กันยายน 2568 และผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลต้องปรากฏรายชื่อภายในวันที่ 11 กันยายน 2568 ขณะที่กำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นจะมีขึ้นในวันที่ 25 กันยายน 2568 บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2568 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 ม.ค.– 30 มิ.ย.2568 ให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งสามัญและบุริมสิทธิในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (101.00) 1.98%) พร้อมกำหนดการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลจะต้องมีรายชื่อในวันที่ 11 ก.ย.2568 โดยวันขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) ในวันที่ 10 ก.ย. 2568 และบริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ก.ย. 2568 ด้าน นายอกินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมฯ มีมติสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ 1. โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยอนุมัติวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 16,000,000 หุ้น ผ่านระบบซื้อขายอัตโนมัติของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2568 ถึง 2 มีนาคม 2569 รวมกับโครงการซื้อหุ้นคืนก่อนหน้าที่ดำเนินการแล้ว 19,020,000 หุ้น ทำให้จำนวนหุ้นซื้อคืนรวมไม่เกิน 35,020,000 หุ้น หรือคิดเป็น 4.14% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร 2. ที่ประชุมฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อนุมัติจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2568) ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ณ ราคาปิดวานนี้ (59.75 บาท) 2.51%) คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลราว 48.46% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ และ 50.25% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม โดยเงินปันผลดังกล่าวจ่ายจากกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ซึ่งผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาสามารถใช้เครดิตภาษีได้ตามสิทธิ สำหรับการจ่ายปันผล กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record date) ในวันที่ 11 กันยายน 2568 และจ่ายจริงในวันที่ 25 กันยายน 2568 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 10 ก.ย. 2568 บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด(มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า มีมุมมอง Positive ต่อข่าวโครงการซื้อหุ้นคืนของ KKP จากข้อมูลประเมินราคาที่ซื้อคืนเบื้องต้นเฉลี่ยที่ 62.5 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาตลาดที่ 57.5 บาท และการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 1.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend yield 2.6% สูงกว่าคาดไว้ที่ 1.25 บาทต่อหุ้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายที่ 60 บาท เพราะเห็นพัฒนาการทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวก ทั้งการลดลงของหนี้เสีย (NPL) การขาดทุนรถยึดที่ลดลง และการบริหารค่าใช้จ่ายสำรอง (Credit cost) และคาดว่าธนาคารสามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผล Dividend yield ที่ 7.6% ต่อปี “KKP มีปัจจัยบวกจากโครงการซื้อหุ้นคืน และเงินปันผลระหว่างกาลที่มากกว่าคาด” บล.กรุงศรี ระบุ