เจาะกระดาน
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ขายก่อน..สบายใจก่อนช่วงนี้ดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนอย่างไร..ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ต้องการลดความเสี่ยงก่อนจะถึงช่วงวันหยุดฟันหลอ และวันหยุดยาว 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ป่วนตลาดหุ้นถ้ามองตลาดหุ้นไทยตามท้องเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเห็นว่า แรงขายที่มีออกมาเป็นระลอกในภาวะปกติ มักจะมาจากหุ้นที่หลากหลายกลุ่มด้วยกัน 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ตลาดหุ้นเงียบเหงาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 27-31 มี.ค. 66 บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย “โมนิก้า” ที่เป็นสาวลั้ลลาก็ยังเหนื่อยแทนนักลงทุนสายเทรดเลยจ้า!!! 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  เขย่าเอาของ?ทุกครั้งที่ดัชนีขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญทีไร มักเห็นรายการเขย่าหุ้นเพื่อให้นักลงทุนคายหุ้นออกมาเป็นประจำ 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  หุ้นตัวแรงคัมแบ็ค!สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่นักลงทุนหายตกใจ และได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาหวือหวา มักเห็นพวกหุ้นตัวแรงกลับมาแสดงอภินิหารกันอย่างดาษดื่น 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ทะลุ 1,600 ไปยาวดูเหมือนแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาเที่ยวนี้จะทำให้โมเมนตัมของการลงทุนเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับปลุกความหวังจะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดอีกครั้ง 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ซบเซา..แต่ยังแซ่บบรรยากาศลงทุนเช้าวานนี้ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที เพราะท่าที “เอาจริง เอาจัง” เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของนักลงทุน 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ไม่กลัว..ต้องลุยในเมื่อนักลงทุนทั่วโลกเลิกกังวลกับการ “ขึ้นดอกเบี้ย” และเกิดความรู้สึกไม่กลัวกับการที่ “แบงก์ล้ม” ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเหนียมอายอะไรทั้งนั้น 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  หุ้นไทยแกร่งสุดในปฐพี?แม้ว่าเดี๊ยนจะเกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเห็นตลาดหุ้นไทยบวกสวนเฟดที่ประกาศกร้าวจะขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ ตลอดปีนี้ 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ผู้กองมาช่วย (กระทืบ)หากตลาดหุ้นไทยยังล้อไปตามกระแสตลาดหุ้นต่างประเทศเหมือนที่ผ่านมา “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า เหตุการณ์โดนรุมกระทืบจากนักลงทุนสถาบันจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  หลอกไปเชือด?“โมนิก้า” รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,577.18 จุด +21.73 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.33 หมื่นลบ. 
- 
	
			สารพันชาวหุ้น  ส่อแววหลุด 1,500 จุดสุดท้ายทุกคนก็ยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า การพังครืนของแบงก์ “อเมริกา” กับ “ยุโรป” เที่ยนี้มันร้ายแรงพอ ๆ กับวิกฤติแฮมเบอเกอร์เมื่อปี 51 
