Rinascente

นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า การขายธุรกิจห้างสรรพสินค้า Rinascente ในประเทศอิตาลี มูลค่ารวมประมาณ 14.7 พันล้านบาท ถือเป็นการดำเนินการตามกลยุทธ์การปรับพอร์ตธุรกิจของบริษัท ที่มุ่งเน้นการลงทุนในตลาดหลักอย่างประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและบริษัทมีความเชี่ยวชาญ สำหรับเงินที่ได้รับจากการขาย CRC จะนำไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน รวมถึงใช้คืนหนี้สถาบันการเงินราว 5.3 พันล้านบาท และนำบางส่วนไปใช้ในแผนควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีกำไรหลังหักภาษีจากธุรกรรมครั้งนี้ประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าต้นทุนที่เข้าลงทุนตั้งแต่ปี 2561 อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ CRC ยังมีแผนเบื้องต้นในการนำเงินสดสุทธิส่วนหนึ่งจำนวน 7.7 พันล้านบาท มาจ่ายเป็นเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น คิดเป็น 1.28 บาทต่อหุ้น โดยจะทยอยจ่ายสองครั้ง คือ ประมาณ 4.2 พันล้านบาทภายในปี 2568 และอีก 3.5 พันล้านบาทพร้อมปันผลประจำปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้านมูลค่าการขายครั้งนี้มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ราว 14.4 เท่า และอัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBITDA) ราว 7.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจค้าปลีกในยุโรป และสอดคล้องกับการประเมินด้วยวิธีการ DCF ซึ่งสะท้อนถึงความคุ้มค่าในการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-Strategic Operating Asset) ขณะเดียวกัน ธุรกรรมนี้ยังช่วยลดภาระและความเสี่ยงจากการบริหารธุรกิจในอิตาลี รวมถึงลดสัดส่วนรายได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตราสูงราว 30% เมื่อเทียบกับอัตราภาษีเฉลี่ย 23% ของ CRC ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม CRC จะยังคงสามารถสร้างความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับ Rinascente ต่อไปได้เช่นเดิม ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวจะถูกนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 โดยมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เพื่อจัดทำความเห็นอิสระเกี่ยวกับความเป็นธรรมของธุรกรรมดังกล่าว