ฝรั่งขายแสนล้าน

ทันทีที่เห็นตลาดหุ้นไทยเปิดเทรดด้วยการยืนประคองตัวได้ราว 15 นาที ก็ทำให้หัวใจของ “โมนิก้า” พองโตขึ้นมาทันที


ทันทีที่เห็นตลาดหุ้นไทยเปิดเทรดด้วยการยืนประคองตัวได้ราว 15 นาที ก็ทำให้หัวใจของ “โมนิก้า” พองโตขึ้นมาทันที และรู้สึกเหมือนมีความหวังขึ้นมานิดหนึ่ง แต่พอนึกถึงแรงบีบคั้นที่มาจากข่าวร้ายท่วมตลาดหุ้น ก็ทำให้เดี๊ยนต้องเปลี่ยนมุมมองไปในทางไม่ดีทันที เพราะตลาดหุ้นไทยยังต้องเผชิญกับแรงขาย “ฝรั่งหัวทอง” กับ “ฝรั่งหัวดำ” ต่อไปอีกนานไงล่ะคะ

สาเหตุที่ทำให้เชื่อว่า แรงขายจะมีออกมามากเกินต้านทาน ล้วนมาจากความมั่นใจในการลงทุนลดฮวบอีกครั้ง จึงทำให้นักลงทุนคัทลอสมือเป็นระวิง และทำให้ดัชนีร่วงลงเละเทะในช่วงบ่ายแก่ ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,523.89 จุด ลบไป 49.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 แสนล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า รอบนี้ไม่มีใครกล้าเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตเหมือนรอบก่อน ๆ เพราะทุกคนกลัวผลกระทบจากฝั่งอเมริกาน่ะซี

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากชี้ให้เห็นแรงขายของฝรั่งรอบนี้มีไม่ต่ำแสนล้าน ผนวกกับข้อมูลเมื่อปีที่แล้วชี้ให้เห็นว่า ฝรั่งมีของอยู่ในมือราวสองแสนล้าน แต่ปีนี้ฝรั่งเพิ่งขายออกมาแค่ระดับ 4.60 หมื่นล้าน จึงมีช่องว่างให้ “รินขาย” หรือ “สาดหุ้น” ออกมาได้อีกเพียบ แถมเมื่อดูจากสถานการณ์ “ดอกเบี้ย” ที่เป็นแรงกดดันสำคัญ ก็ทำให้เดี๊ยนกังวลว่า จุดเด้งที่เคยทำงานได้ดีบริเวณ 1,520 จุด อาจเกิดอาการเครื่องน็อคไปดื้อ ๆ นะนายจ๋า

เนื่องจากบริบทหลายอย่างไม่เป็นเหมือนที่คาดการณ์ไว้ และเรื่องราวที่สร้างความหนักใจให้กับนักลงทุนยังฝุ่นตลบ “โมนิก้า” ถึงเชื่อเหลือเกินว่า วันนี้เป็นเกมเดิมพันสำหรับแมงเม่าอย่างแท้จริง เพราะเมื่อส่องดูยอดซื้อสุทธิวานนี้ปาเข้าไป 9.77 พันล้าน นั่นอาจตีความได้ว่า หุ้นลงมากเกินพื้นฐานที่แท้จริง เลยกลายเป็นจังหวะของการซื้อลงทุน เดี๊ยนจึงขอซูฮกในความเด็ดเดี่ยวของแมงเม่าทั้งผองนะจะบอกให้

ขนาดหุ้นไฟฟ้าขวัญใจอย่าง EA ยังถูกถล่มขายไม่มีเยื่อใย ทั้งที่โบรกเกอร์ยังยืนเป้าหมายไว้ที่บริเวณ 105 บาท แต่วานนี้กลับลงมายืนปิดที่ระดับ 71.75 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้รู้ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นฐาน แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจ จึงต้องเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นจะต้องอ่อนตัวลงไปเรื่อย ๆ นะคะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น BEM ก็ตกอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” จึงโดนถล่มขายแบบไม่ต้องถามไถ่ให้เสียเวลา เพราะการทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 8.60 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่สอดคล้องกับแรงขาย “กองทุน โบรกเกอร์ ฝรั่ง” จึงไม่ต้องถามหาเหตุผลที่จะทำให้หุ้นร่วงลงอีกในวันนี้ เพราะมันเป็นเรื่องของการลดความเสี่ยงน่ะซี

เช่นเดียวกับการทรุดฮวบของหุ้นปูนใหญ่ SCC ถือเป็นสถานการณ์ที่ตอกย้ำให้รู้ว่า เที่ยวนี้ทุกคนพร้อมทิ้งเพื่อความสบายใจ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผลงานที่กำลังฟื้นตัวดีขึ้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 316 บาท ลบไป 13 บาท หรือลงไป 3.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่าในภาวะเช่นนี้..มันมีโอกาส “ขึ้น” หรือ “ลง” มากกว่ากันเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่ย่อยยับไม่แพ้กับรายก่อน ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันไปดูหุ้น TRUE เพื่อชี้ให้เห็นการดิ่งลงต่อเนื่องแบบไม่มีดิสเบรค มันอาจเกี่ยวข้องกับการฤกษ์ตกฟากไม่ดีก็เป็นไปได้ จึงทำให้ทุกคนรุมกระหน่ำขายหุ้นแบบไม่ยั้ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 7.35 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.59 พันล้านบาทแบบนี้..มันเป็นจังหวะที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสลงต่อสูง หลังปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้อให้เลยสักอย่างนะจ๊ะ

ตบท้ายกันที่หุ้น XPG ภายใต้กลุ่มทุน “แสนสิริ” กับมือบริหารจอมเก๋าเกมอย่าง “ระเฑียร” เพื่อชี้ให้เห็นเกมธุรกิจที่เดินหมากผิด ก็ทำให้ทุกอย่างมีแต่ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 0.91บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 14.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำให้เห็นว่า ของที่มันกลวงมาตั้งแต่ต้น..วันนี้ก็ต้องกลวงต่อไป ไม่เชื่อลองถาม “เฮียนิด” ที่หันไปเอาดีทางการเมืองซิ!..อิอิอิ

Back to top button