ศาล รธน. สั่ง “วุฒิสภา–ภูมิธรรม–ทวี” ยื่นพยานเพิ่ม 15 วัน ปมสอบฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้วุฒิสภา นายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี ยื่นบัญชีพยานเพิ่มภายใน 15 วัน ปมถูกกล่าวหาว่าใช้ดีเอสไอ แทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือกตั้ง สว. อาจเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมร้ายแรง และเป็นเหตุให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ค.68) ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องที่ 8/2568 คดีที่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

โดย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ผู้ร้อง กล่าวอ้างว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งสองมีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (DSI) เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว.

อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว. ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม ถือได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า ให้คู่กรณียื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 60 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 25 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

Back to top button