BEM โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 9.05 บาท รับอานิสงส์ “ทางด่วน–สีม่วงใต้” หนุนกำไร

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองบวก BEM รับอานิสงส์สายสีม่วงใต้ และทางด่วน Double Deck หนุนรายได้-กำไรเติบโต เสริมศักยภาพธุรกิจระยะยาว โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.05 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมิน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเป็น “Big Jump” สำคัญของธุรกิจรถไฟฟ้า โดยสายสีส้มถือเป็นรถไฟฟ้าสายใหญ่ลำดับที่ 3 รองจากสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ครอบคลุมพื้นที่ย่านธุรกิจและการศึกษา อาทิ รามคำแหง สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน บางกะปิ ประตูน้ำ และดินแดง

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ฝั่งตะวันออกงานโยธาแล้วเสร็จ 100% ขณะที่งานระบบรถไฟฟ้า (M&E) ดำเนินการไปแล้ว 17% คาดเปิดให้บริการเดือนมกราคม 2571 ส่วนฝั่งตะวันตก งานโยธาคืบหน้า 16% และ M&E ที่ 7% คาดเปิดให้บริการเดือนกรกฎาคม 2573 โดยประเมินว่าจะมีผู้โดยสารฝั่งละกว่า 1 แสนคนต่อวัน

การเปิดให้บริการสายสีส้มจะเป็นตัวเร่งธุรกิจรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสายสีน้ำเงินซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารบางส่วนเปลี่ยนขบวนเข้าสู่ใจกลางเมืองที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ส่งผลให้ BEM สั่งซื้อขบวนรถสายสีน้ำเงินเพิ่มอีก 21 ขบวน เริ่มทยอยเข้าปี 2570 รองรับการเปิดฝั่งตะวันออกต้นปี 2571 พร้อมทั้งมีการจัดซื้อรถไฟฟ้าสายสีส้ม 51 ขบวน เข้ามาในปีเดียวกัน อีกทั้งยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ราว 10 สถานี

นอกจากนี้ โครงการ ทางด่วน Double Deck จะเกิดขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนทางด่วน โดยออกแบบเพื่อรองรับรถที่เดินทางออกนอกเมือง มูลค่าโครงการราว 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะเก็บค่าทางด่วนเพียง 50 บาท ไม่ว่าจะใช้เส้นทางขั้นที่ 1, ขั้นที่ 2 หรือทางด่วนนอกเมืองสาย C และ D พร้อมปรับสัดส่วนการแบ่งรายได้จากเดิม BEM 40% : รัฐ 60% เป็น 50% : 50% และขยายอายุสัมปทานเพิ่มอีก 22 ปี 5 เดือน

ขณะเดียวกัน BEM ยังมีโอกาสได้รับสิทธิ เดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ต่อเนื่องจากที่ปัจจุบันให้บริการสายสีม่วงเหนือ โดยโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วกว่า 60% คาดทยอยเปิดให้บริการบางสถานีปลายปี 2571 และเปิดครบเส้นทางในปี 2573 แม้จะมีเหตุถนนสามเสนทรุดตัวแต่จะไม่กระทบต่อแผนการเปิดใช้สายสีม่วงใต้

ทั้งนี้ รายได้ O&M ของสายสีม่วงจะเพิ่มจากปัจจุบันราว 2,400 ล้านบาทต่อปี (เฉพาะสายเหนือ) เป็นกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปีเมื่อเปิดครบทั้งเส้นทาง โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.05 บาท

Back to top button