
ก.ล.ต. จับมือ ปปง. เร่งสอบผู้ถือหุ้น 7 บจ. พัวพันเครือข่ายสแกมเมอร์หมื่นล้าน
ก.ล.ต. จับมือ ปปง. เดินหน้าตรวจสอบผู้ถือหุ้น 7 บจ. หลังรับข้อมูลจาก ปปง. คดีฟอกเงินกว่า 10,165 ล้านบาท พร้อมเร่งตรวจลึกโครงสร้างผู้ถือหุ้น–ธุรกรรมต้องสงสัย เพื่อปิดช่องโหว่ในตลาดทุน
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อสกัดกั้นอาชญากรรมทางการเงินที่ใช้ตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางก่อเหตุ โดยยืนยันว่าขณะนี้ ก.ล.ต. ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหลายหน่วยงานรัฐ เพื่อเร่งติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด โดยไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพของตลาดและผู้ลงทุนทุกกลุ่ม
สำหรับกรณีบริษัทจดทะเบียน 7 แห่งที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ต่างชาติผ่านการใช้บุคคลอื่นถือหุ้นแทน (นอมินี) เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึก โดยยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาแล้วเสร็จ แต่ย้ำว่าทุกประเด็นกำลังอยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบหลักฐานชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ก.ล.ต. ยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพื่อระบุตัวผู้ถือหุ้นที่แท้จริง การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การรายงาน รวมถึงข้อบังคับเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อ พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการตรวจสอบลูกค้า (KYC) และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (CDD) เพื่อปิดช่องโหว่การฟอกเงินในตลาดทุนไทย
สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ได้เปิดเผยมติคณะกรรมการธุรกรรมสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นคดีสำคัญด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดย ปปง. ได้ส่งข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้ ก.ล.ต. เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกรอบกฎหมายตลาดทุน
ก.ล.ต. ย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายจะเดินหน้าต่อเนื่อง ควบคู่กับการประสานงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของระบบตลาดทุนไทยในระยะยาว

