WHA เผย ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งกอง HREIT มูลค่า 8.02 พันลบ.

WHA เผย ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช หรือ HREIT ผู้ประกอบธุรกิจลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป คุณภาพสูง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค มูลค่าไม่เกิน 8.02 พันลบ. คาดเสนอขายได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ โดยมี ธนาคารไทยพาณิชย์ จากัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หวังนำเงินที่ได้ไปลงทุนในการเช่าอสังหาริมทรัพย์


นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไฟเขียวนับ 1 ไฟลิ่งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช หรือ HREIT มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 8,018.60 ล้านบาท ลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป คุณภาพสูง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค รวมทั้งสิ้น 6 แห่ง เป็นระยะเวลา 30 ปี และสิทธิในการต่ออายุสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมระยะเวลาจัดหาผลประโยชน์สูงสุดถึง 60 ปี และคาดว่ากองทรัสต์ HREIT จะเสนอขายได้ภายในเดือนพฤจิกายนนี้

โดยเป็นการให้สิทธิในการจองซื้อก่อนต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ในวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ทั้ง 100% ของหน่วยทรัสต์ HREIT ที่จะออกและเสนอขายครั้งแรกทั้งสิ้นจำนวน 554,907,000-569,360,000 หน่วย  ในกรณีที่มีหน่วยทรัสต์เหลือจากการจัดสรรต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART จะเสนอขายต่อเหมราช และ/หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของเหมราช ผู้มีอุปการคุณของกลุ่มบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน นักลงทุนสถาบัน และผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA  ในฐานะบริษัทแม่ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช โดยกองทรัสต์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปคุณภาพสูงของนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ที่ถือเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ของประเทศ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, อิเล็กทรอนิกส์ และ โลจิสติกส์ เป็นต้น

ซึ่งแม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่บริษัทไม่ได้มีความกังวลเรื่องการแข่งขันมากนัก แต่มองโอกาสของธุรกิจโลจิสติกส์ที่จะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญผลักดันการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ราว 6,000 ล้านบาทนั้นจะนำมาใช้ชำระคืนหนี้จากการเข้าซื้อบมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน ราว 4-5 พันล้านบาท โดยจะทำให้อัตราส่วนหนี้ต่อทุน (D/E) ของ WHA ลดลงมาอยู่ที่ 1.7 เท่าในปีนี้ และเป็น 1.1 เท่า ในปี 60 จากปัจจุบัน ที่มี D/E อยู่ที่กว่า 2 เท่า ส่วนเงินที่เหลือจะนำมาใช้สำหรับเป็นทุนหมุนเวียนและใช้สำหรับการลงทุนอื่น ๆ ในอนาคต

นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนต่างประเทศ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า เหมราชเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารนิคมอุตสาหกรรมมาตรฐานระดับโลกในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 28 ปี นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 8 แห่ง จากนิคมฯ ทั้งหมด 12 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Eastern Seaboard และจังหวัดสระบุรี มีพื้นที่รวมกว่า 45,000 ไร่ ประกอบด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน ที่สำคัญ เราเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย

อีกทั้ง ยังมีเส้นทางการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ใกล้สนามบินนานาชาติ คือ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ และอยู่ใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ที่เชื่อมต่อการขนส่งในภูมิภาคอาเซียน และทั่วโลก อีกทั้ง มีรถไฟรางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยจะเชื่อมต่อภาคตะวันออกสู่กรุงเทพให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยอาคารโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่ามีการออกแบบด้วยมาตรฐานสากล คุณภาพสูง พร้อมการบริหารจัดการและการดูแลบำรุงรักษาอย่างมืออาชีพ  

กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเหมราช เป็นนิคมอุตสาหกรรม ชั้นนำของประเทศ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยผู้ผลิตจากอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, อิเล็กทรอนิกส์, วัสดุก่อสร้าง, พลาสติก สินค้าอุปโภคบริโภค และโลจิสติกส์ ฯลฯ นอกจากนี้ เราเชื่อมั่นว่า การให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน มีส่วนช่วยในการเติบโตของลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเหมราชฯ

ด้านนายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาต และนับหนึ่งไฟลิ่งในการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปกระจายอยู่ 6 โครงการ คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 261,314 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารโรงงาน 167,372 ตารางเมตร และอาคารคลังสินค้า 93,942 ตารางเมตร โดยมีรายละเอียดดังนี้   อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ,อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ,อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี  ,อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 1 ,อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 2, อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4

“พื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปส่วนใหญ่ที่กองทรัสต์ HREIT จะเข้าไปลงทุนนั้น ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น อีกทั้งทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนบางส่วน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประกอบการเสรี (IEAT Free Zone) ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือ ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงทำให้ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในครั้งแรกนี้ มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดผู้เช่าที่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี”นายเผ่าพิทยา กล่าว

ขณะที่นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution  ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวเสริมว่า กองทรัสต์ HREIT มีจุดเด่นทั้งในด้านทรัพย์สิน และด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ในแหล่งนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศและระดับภูมิภาค อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเหมราช ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ที่มีประสบการณ์ยาวนานและชื่อเสียงเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าผู้ประกอบการอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่านักลงทุน จะมีโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงจากกอง HREIT โดยประมาณอัตราผลตอบแทนในปีแรกเท่ากับร้อยละ 7.75-8.00 ซึ่งประกอบด้วยประมาณการอัตราผลตอบแทนสุทธิ (Net Yield) ร้อยละ 6.07-6.32 ประมาณการการแบ่งส่วนทุนจากรายการที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดร้อยละ 0.01 และประมาณการเงินคืนทุนที่ถูกทยอยคืนแบบเส้นตรงร้อยละ 1.67

สำหรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์ HREIT ทั้งหมดจำนวน 554,907,000 – 569,360,000 หน่วยนั้น จะให้สิทธิในการจองซื้อก่อนต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ทั้งหมด 100 % ของหน่วยทรัสต์ HREIT ที่จะออกและเสนอขายครั้งแรกนี้ โดยจะเสนอขายและจัดสรรตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ WHART ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART แต่ละรายที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ในวันที่ 19 ตุลาคม 2559  ในอัตราส่วน 1.1622 – 1.1924 หน่วยของหน่วยทรัสต์ WHART ต่อ 1 หน่วยของหน่วยทรัสต์ HREIT ที่ราคา 10.00 บาทต่อหน่วย

Back to top button