TLI ทรุดต่อ 4% ออลไทม์โลว์! สวนโบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 21 บ. คาดกำไรปี 65 โต 29%

TLI ทรุดต่อ 4% ออลไทม์โลว์! สวนโบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 21 บาท คาดกำไรปี 65 โต 29% จากธุรกิจประกันชีวิตฟื้นตัวแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ม.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ณ เวลา 10:47 น. อยู่ที่ระดับ 14.20 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.05% สูงสุดที่ระดับ 14.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 673.04 ล้านบาท ราคาหุ้นต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อ 25 ก.ค.565

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ระบุว่า คาดกําไรสุทธิของ TLI ปี 65 จะเติบโต 29% และปี 66 เติบโต 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจประกันชีวิตฟื้นตัว และกลยุทธ์การเน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพการทำกําไรสูงต่อเนื่อง อาทิ ประกันชีวิตแบบ Unit Linked และประกันสุขภาพ

ขณะที่ในเบื้องต้น คาดกําไรสุทธิงวดไตรมาส 4/65 จะยังดีต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/65 (และเติบโตสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรับจะเติบโตตามฤดูกาล จึงปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 19 บาท แนะนํา “ซื้อ” ลงทุนระยะกลางถึงยาว

สำหรับกําไรสุทธิงวดไตรมาส 3/65 เท่ากับ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากธุรกิจประกันชีวิตฟื้นตัว จากการตั้งสํารองประกันภัยลดลง ขณะที่มูลค่ากําไรธุรกิจใหม่ (Value of New Business: VONB) ของ TLI ณ สิ้นงวด 9 เดือนของปี 2565 อยู่ที่ 5,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 29% จากสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ ธุรกิจลงทุนก็ฟื้นตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับ ROI งวดไตรมาส 3/2565 ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 3.8%

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง neutral หุ้น TLI จากข้อมูลในการประชุมกับผู้บริหารล่าสุด เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับที่คาดเดิม โดยสรุปข้อมูลที่สำคัญดังนี้1. ผู้บริหารมั่นใจรายได้ประกันไตรมาส 4/65 เติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จาก high season และค่าเคลมโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง, 2. เปอร์เซ็นต์ (%) VONB margin คงไว้ได้ในระดับสูง จากการขายผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น และมี % VONB margin สูง

3.ธุรกิจยังคงได้ประโยชน์จาก bond yield ขาขึ้น, 4. มองการแข่งขันในอุตสาหกรรมจำกัดและมีโอกาสเติบโตอีก และ5. ยังลงทุนใน technology ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังคงเน้นขายผ่านช่องทาง agency เป็นหลัก

โดยคงมุมมองระยะยาวเติบโตดีเฉลี่ย 15% CAGR ปี 2565-2567 คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท ราคาปัจจุบัน trade บน P/EV ปี 2566 ที่ 0.95 เท่า สะท้อน valuation ไม่แพง สามารถซื้อตอบรับแนวโน้มอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก  ทิศทาง bond yield เป็นขาขึ้น และพื้นฐานแข็งแกร่งโดยเฉพาะ % VONB margin

Back to top button