“กลุ่มไฟแนนซ์” บวกคึก! MTC นำทีมพุ่ง 5% รับบอนด์ยีลด์ชะลอ-เก็งงบ Q3 โตแกร่ง

“กลุ่มไฟแนนซ์” บวกคึก! MTC นำทีมพุ่ง 5% รับบอนด์ยีลด์ชะลอตัว-เก็งงบไตรมาส 3/66 โตแกร่ง โบรกเชียร์ซื้อ SAWAD เป้า 51 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/66 แตะ 1.43 พันล้านบาท โต 25%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 ต.ค.66) ราคาหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า นำโดยบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ณ เวลา 11:16 น. อยู่ที่ระดับ 38.50 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 5.48% ราคาสูงสุด 39.25 บาท ราคาต่ำสุด 37.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 436.92 ล้านบาท

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 11:14 น. อยู่ที่ระดับ 45.75 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.81% ราคาสูงสุด 46.25 บาท ราคาต่ำสุด 45.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 523.94 ล้านบาท

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน หรือ TIDLOR ณ เวลา 11:17 น. อยู่ที่ระดับ 21.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 1.92% ราคาสูงสุด 21.40 บาท ราคาต่ำสุด 20.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 286.91 ล้านบาท

บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ณ เวลา 11:19 น. อยู่ที่ระดับ 4.62 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 2.67% ราคาสูงสุด 4.68 บาท ราคาต่ำสุด 4.52 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.16 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(12 ต.ค.66) ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,460-1,465 จุด ตอบรับรายงานการประชุมเฟดบ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนตัวซึ่งเป็นบวกต่อฟันด์โฟลว์ประกอบกับแรงซื้อหุ้นรายตัวที่งบไตรมาส 3/66 เติบโต อย่างไรก็ตามราคา น้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลังซาอุฯให้คำมั่นรักษาเสถียรภาพตลาดเป็นลบต่อกลุ่ม พลังงานซึ่งจะกดให้ดัชนีสลับอ่อนตัว แนะนำ MTC,SAWAD,KTC, AEONTS, ASK อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง

ด้านบล.หยวนต้า คาดว่ากลุ่ม Finance มีโอกาสรีบาวด์ได้ต่อ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) เริ่มพักตัวลง ส่งผลให้มีโอกาสเกิด Short Covering ในกลุ่มที่ก่อนหน้าปรับตัวลงจาก Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น

โดยมองหุ้น SAWAD แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 คาดเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า ที 1.3-1.4 พันล้านบาทจากการรวมงบการเงินของเงินสดทันใจแบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และเริ่มเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นของทั้งบมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และ SAWAD เรามองว่าเป็นบวกต่อกลุ่ม Finance ช่วยให้ NIM มีเสถียรภาพ

ส่วนบล.ฟินันเซีย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SAWAD คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66  ที่ 1.43 พันล้านบาท โต 25% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และโต 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนมากจากการควบรวม FM เต็ม 100% จากเดิมรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร ขณะที่คาดว่า Credit cost ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.67% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 3.04% ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากมีรายการ One-time

คาดว่ากำไรสุทธิปี 2566-2568 จะโตต่อเนื่องถึง 18.5% ต่อปี CAGR จากการกลับสู่การเติบโตที่เป็นเชิงรุกมากยิ่งขึ้นของสินเชื่อทะเบียนสินทรัพย์ประเภทต่างๆ การควบรวมงบการเงินของ FM น่าจะให้ผลเชิงบวกตลอดปี และผลการดำเนินงานของ SCAP ซึ่งเราคาดว่าจะโตต่อเนื่องเป็นประมาณ 11% ต่อปี CAGR เราให้ราคาเป้าหมาย 51 บาท แนะนำ “ซื้อ”

Back to top button