
“ฟินันเซีย ไซรัส” ชี้ DELTA-KCE-HANA กระทบจำกัด ภาษีชิปสหรัฐ 100%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองข่าวภาษีชิป 100% ของสหรัฐเป็นลบเชิงจิตวิทยา ประเมินผลกระทบต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไทยอย่าง DELTA, KCE และ HANA อยู่ในวงจำกัด โดยเฉพาะ HANA ที่มีโรงงานผลิตในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ส.ค. 68) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อ่อนตัวลงจากการแพนิกจากภาษีชิปสหรัฐ 100% ทำให้ราคาหุ้น ณ เวลา 10:07 น. ปรับตัวลง นำโดย บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 22.40 บาท ลบ 0.60 บาท หรือ 2.61% สูงสุดที่ระดับ 22.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105.87 ล้านบาท
บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 146.50 บาท ลบ 1.00 บาท หรือ 0.68% สูงสุดที่ระดับ 147.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 146.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120.58 ล้านบาท
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 24.60 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.40% สูงสุดที่ระดับ 24.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29.63 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองต่อข่าวการผลักดันนโยบายเก็บภาษีนำเข้าชิปในอัตรา 100% ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ สำหรับบริษัทที่ไม่มีแผนลงทุนในสหรัฐฯ โดยประเมินว่า แม้ข่าวดังกล่าวจะเป็นลบต่อภาพรวมของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในแง่ของ sentiment แต่ผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนในไทยที่เกี่ยวข้องยังอยู่ในวงจำกัด
ทั้งนี้ กลุ่มหลักที่มีรายได้จากตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA สัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ ราว 30%, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA สัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ ราว 26% และ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE สัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ ราว21%
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น DELTA และ KCE ไม่ได้ส่งออก “ชิป” โดยตรง จึงคาดว่าจะไม่เข้าข่ายมาตรการดังกล่าว
ขณะที่ HANA ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง อาจได้รับผลกระทบบ้างในเชิงทฤษฎี อย่างไรก็ตาม บริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ราว 7% ของรายได้รวม จึงช่วยลดความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าได้ในระดับหนึ่ง