PSTC คาดปีนี้รายได้โตกว่า 60% ตั้งเป้ากำลังผลิต 100 MW ในปี 61

PSTC คาดปีนี้รายได้โตกว่า 60% หลังรับรู้รายได้จากการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม ตั้งเป้ากำลังผลิต 100 MW ในปี 61 เผยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มอีก 4MW คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณเดือนส.ค.59


นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/59 บริษัทคาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน หลังเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น จากการที่ได้ซื้อโครงการผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตกว่า 60% จาก 484 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากจะเป็นการเติบโตในธุรกิจออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม ที่คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อน หลังจากการประมูล 4G คลื่น 900MHz แล้วเสร็จทำให้ผู้ประกอบการมีการขยายเครือข่ายเพิ่มเติม ประกอบกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เร่งขยายโครงข่ายบรอดแบนด์/Free Wi-Fi กระจายสู่ชุมชน 10,000 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ธุรกิจเดิมมีการขยายตัวค่อนข้างมากในปีนี้

ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่ครอบคลุมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล พลังงานลมและพลังงานขยะนั้น ซึ่งในปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 12.2 เมกะวัตต์ (MW) จากระดับ 4.2 เมกะวัตต์ในปีก่อน โดยล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพของบริษัท อรัญ พาวเวอร์ กำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าของ บริษัท เศรษฐีสุพรรณ ไบโอกรีนเพาเวอร์ จำกัด กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า คาดจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้เต็มกำลังตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป และส่วนที่เหลือจะมาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าปี 61 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมแตะ 100 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มอีก 4 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณเดือนส.ค. ใช้เวลาก่อสร้างราว 8-10 เดือน ในขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าชีวภาพและโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเติมจากหลายโครงการคาดได้ข้อสรุปประมาณไตรมาส 2/59 นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการที่จะร่วมจับสลากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ) และการเสนอขายไฟฟ้าสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา อีกกว่า 20 เมกะวัตต์ ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) รวมไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 23 เมกะวัตต์

“ปีนี้เรามีทั้งการเจรจาเข้าซื้อ ร่วมลงทุน ซึ่งเป้าหมายระยะยาวเราก็มีความมั่นใจ เพราะปีนี้เราก็คงจะมี COD และ PPA รวมไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์แล้ว และเชื่อว่าเรายังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย”นายพระนาย กล่าว

 

Back to top button