EFORL งามสง่า!!

หากพูดถึงจุดแข็งของ EFORL ยังคงเป็นธุรกิจของวุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดความงาม โดยจะเป็นความสามารถสร้างความเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต และสอดคล้องกับกระแสธุรกิจสุขภาพและความงามที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างโดดเด่นต่อไป


หากพูดถึงจุดแข็งของ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL ยังคงเป็นธุรกิจของวุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดความงาม โดยจะเป็นความสามารถสร้างความเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต และสอดคล้องกับกระแสธุรกิจสุขภาพและความงามที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างโดดเด่นต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดด้านสุขภาพ และความงามที่ยังเป็นธุรกิจดาวรุ่งของปี ซึ่งส่งผลดีต่อวุฒิ-ศักดิ์โดยตรง อีกทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)  ขณะเดียวกันธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 50% เนื่องจากบริษัทเพิ่มการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่มีมาร์จิ้นสูง

 สิ่งสำคัญก่อนหน้านี้ EFORL ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมลงทุนใน บริษัท สยามสเนล จำกัด เพื่อยกระดับผลงานค้นคว้าวิจัยการใช้ประโยชน์จากเมือกหอยทากโดยเฉพาะเมือกจากหอยทากในประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความงามแห่งผิวพรรณที่มาจากธรรมชาติปลอดภัยจากสารเคมี

บทบาทร่วมทุนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ ของการเติบโตระยะยาวของ EFORL พร้อมกับเพิ่มฐานธุรกิจด้านสุขภาพและบริการความงามครบวงจรมากยิ่งขึ้น

งานนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ผลการดำเนินงานแจ่มต่อไป สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและบริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,450.25 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 158.23 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 240.73 ล้านบาท หรือ 0.0262 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 26.46 ล้านบาท หรือ 0.0044 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่า ฐานะทางการเงินเริ่มจะไม่สู้ดีนัก เนื่องจากมีเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 1,031.58 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียน 2,433.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสินทรัพย์หมุนเวียน 1,605.53 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 0.66 เท่า แสดงว่า แสดงว่า บริษัทไม่ค่อยมีสภาพคล่องทางการเงินสักเท่าไหร่

ส่วนที่น่าเป็นห่วงจริงๆ คือปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นต่างหาก เพราะเมื่อนำเอาหนี้สินรวมที่มีอยู่ 5,417.06 ล้านบาท มาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับ 1,949.22  ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 2.78 เท่า ถือว่า บริษัทมีหนี้สินมากเกินความเหมาะสมไปหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด เพราะบริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจวุฒิ-ศักดิ์ส่งผลให้บริษัทมีกำไรงามสง่า และเชื่อว่าจะผลักดันผลการดำเนินต่อไป จึงเชื่อว่า EFORL ยังน่าลงทุน!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายศุภชัย วัฒนาสุวิสุทธิ์ 552,577,850 หุ้น 6.01%

2.นางพิชชุดา ชาน 480,129,400 หุ้น 5.22%

3.นางทัศนีย์ วงศ์มณีโรจน์ 450,000,000 หุ้น 4.89%

4.นายพิสิฏฐ์ ภิสสาสุนทร 430,500,000 หุ้น 4.68%

5.นายจักรกริสน์ โลหะเจริญทรัพย์ 401,000,000 หุ้น 4.36%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการ

2.นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการบริหาร

3.นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ กรรมการ

4.นายโกศล วรฤทธินภา กรรมการ

5.นายชาย วัฒนสุวรรณ กรรมการอิสระ

Back to top button