JMART นับวันยิ่งเติบใหญ่

คำว่า “กลุ่มเจมาร์ท” (JMART) อาจจะดูเล็กเกินไปสำหรับธุรกิจที่มีกลุ่ม “สุขุมวิทยา” ถือหุ้นใหญ่แห่งนี้ ต่อไป เราอาจจะต้องเรียกพวกเขาว่า “อาณาจักรเจมาร์ท”


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

คำว่า “กลุ่มเจมาร์ท” (JMART) อาจจะดูเล็กเกินไปสำหรับธุรกิจที่มีกลุ่ม “สุขุมวิทยา” ถือหุ้นใหญ่แห่งนี้

ต่อไป เราอาจจะต้องเรียกพวกเขาว่า “อาณาจักรเจมาร์ท”

เจมาร์ท มีสถานะเป็น Holding Company

ทว่า การเป็น Holding Company ของเจมาร์ท จะแตกต่างกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั่วไปที่มีสถานะเป็น Holding Company เช่นเดียวกัน

“อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” หัวเรือใหญ่ของเจมาร์ท ให้คำจำกัดความของเจมาร์ทไว้

นั่นคือ เจมาร์ทเป็น บริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company

อย่างที่รับทราบกัน

เจมาร์ท เข้าถือหุ้นอยู่ในบริษัทหลายแห่ง

เริ่มจาก JMT หรือ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ทำธุรกิจด้านบริหารหนี้เสีย

เจมาร์ท ถือหุ้นใน JMT อยู่ประมาณ 52.51%

JMT เป็นธุรกิจสร้างรายได้ให้กับเจมาร์ทมากสุด ตัวเลขคร่าว ๆ น่าจะอยู่ประมาณ 65-70%

กำไรของ JMT เติบใหญ่เป็นลำดับ ทำ New High ต่อเนื่องแบบรายไตรมาส และคาดกันว่า งวดไตรมาส 4/2563 ก็น่าจะทำสถิติสูงสุดอีกเช่นเดียวกัน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JMT

แม้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาค่อนข้างสูง หรือในช่วง 6 เดือนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมา 18% (1 ปี ขึ้นมา 85%)

แต่หากดูจากผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็น่าจะยังพอซื้อได้ โดยเฉพาะในจังหวะที่ราคาหุ้นย่อตัว

หลังการประกาศงบฯ ไตรมาส 4/2563

หากกำไรออกมาทำเซอร์ไพรส์ เชื่อว่า นักวิเคราะห์น่าจะขยับราคาเป้าหมายขึ้นไปอีก

ส่วน พี/อี เรโช ปัจจุบัน อยู่ที่ 42-43 เท่า ก็น่าจะลดลงมาได้

SINGER หรือ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย เป็นอีกบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทที่สร้างกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2563 กำไรแล้วกว่า 319 ล้านบาท หรือมากกว่าปี 2562 ทั้งปีที่มีอัตรากำไรสุทธิ 165 ล้านบาท

แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ของ ซิงเกอร์ จากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ KGI กำไรสุทธิน่าจะออกมาที่ 120 ล้านบาท เพิ่ม 188% จากไตรมาส 4/2562 และเพิ่ม 21% จากไตรมาสก่อนหน้า

และทำให้ปี 2564 ซิงเกอร์ฯ น่าจะมีกำไรสุทธิ 460 ล้านบาท เพิ่ม 178%

เจมาร์ท ถือหุ้นใน ซิงเกอร์ไม่มากนัก หรือ 29.45%

มีความเป็นไปได้สูงว่า เจมาร์ทอาจจะเข้ามาถือหุ้นเพิ่มในซิงเกอร์ แต่ก็อาจจะต้องไปนั่งจับเข่าคุยกับ KB Financial Group จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เป็นพันธมิตรใหม่ของเจมาร์ทด้วย

เพราะธุรกิจของซิงเกอร์กับ “เจฟินเทค” อาจมีส่วนที่ซ้ำซ้อนกันบ้าง

มาถึง เจฟินเทค ที่กำลังสร้างความฮอตให้กับเจมาร์ท

เจมาร์ท เพิ่งจะมีการออกหุ้นเพิ่มทุน พร้อมกับดึง KB Kookmin Card ในกลุ่ม KB Financial Group ยักษ์ใหญ่ธุรกิจการเงินเกาหลีใต้ เข้ามาร่วมถือหุ้น

ล่าสุด เจมาร์ท เพิ่งจะมีการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้

แผนงานคร่าว ๆ ที่วางไว้คือ เจฟินเทค ภายใต้ชื่อใหม่ “KBJ” คือการรีไฟแนนซ์หนี้ราว 2.8 พันล้านบาท

และจะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยได้ปีละ 60-70 ล้านบาท

KBJ ในช่วงปี 2021–2022 จะเน้นธุรกิจ Personal loan อาศัย จุดแข็งและซินเนอจี้ภายในกลุ่มเจมาร์ท และมีเป้าหมาย สินเชื่อโต 100% และ 66% เป็น 6,000 และ 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2021–2022

ปี 2023 KBJ ตั้งเป้าหมายลุย “ธุรกิจบัตรเครดิต” อาศัย Know-how ของ KB Kookmin card ที่มีอยู่แล้วเป็นข้อได้เปรียบ และตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2025

ส่วนธุรกิจด้านจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจมาร์ท

ยังคงสร้างรายได้ให้กับเจมาร์ทที่ดีเช่นกัน แม้ว่าปัจจุบัน สัดส่วนจากรายได้ธุรกิจการเงินจะสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาก

J หรือ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท ยังเป็นอีกธุรกิจที่เริ่มกลับมาสร้างรายได้ให้กับเจมาร์ทเช่นกัน

นี่เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของกลุ่มเจมาร์ท

จะเห็นว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นของกลุ่มเจมาร์ท วิ่งขึ้นมากันแบบยกแผง

การเติบใหญ่ของเจมาร์ท น่าจะมีส่วนสำคัญให้กลุ่มธุรกิจแห่งนี้ เติบใหญ่กลายเป็น “อาณาจักรเจมาร์ท”

และก้าวเข้ามาเป็นหุ้นในกลุ่ม SET50 ได้

Back to top button