พาราสาวะถี

เหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ จึงเป็นธรรมดาที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะแสดงความไม่สบอารมณ์กับการถูกนักข่าวถามเรื่องสายการบินนกแอร์ยกเลิกเที่ยวบินตรงไปสนามบินเบตง


เหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ จึงเป็นธรรมดาที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะแสดงความไม่สบอารมณ์กับการถูกนักข่าวถามเรื่องสายการบินนกแอร์ยกเลิกเที่ยวบินตรงไปสนามบินเบตง จังหวัดยะลา ในวันที่ 16 และ 18 มีนาคมนี้ อันเนื่องมาจากสาเหตุมีผู้โดยสารน้อย ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทั้งที่ท่านผู้นำพร้อมคณะเพิ่งไปกดปุ่มเปิดอย่างใหญ่โตเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อม ๆ กับคุยฟุ้งเสียด้วยว่า นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงที่เกิดขึ้นจากฝีมือของรัฐบาลที่มีตัวเองเป็นผู้นำ

คล้อยหลังไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็เกิดเหตุเช่นนี้ ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจสติแตก พร้อมกับถามกลับนักข่าวในสิ่งที่ไม่ควรถาม “จะให้ทำยังไง” อ้าว!ไหนวันก่อนเพิ่งโวเสียใหญ่โต แล้ววันนี้จึงต้องมาโมโหโกรธากันด้วย ไม่เพียงเท่านั้น การอธิบายต่อมาก็กลายเป็นการตอบแบบไม่ตรงคำถาม สะท้อนถึงภาวะสติแตกได้เป็นอย่างดี ไม่มีใครบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการที่มีสนามบินเบตง แต่ที่คนสงสัยคือเมื่อยังไม่พร้อมแล้วจะรีบเปิดบริการทำไม ประชาชนที่เขาได้รับความเดือดร้อนจะให้ทำยังไง

เข้าใจได้ว่าในอนาคตถ้ามีการเปิดประเทศเที่ยวบินจากมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ก็จะบินมาลงมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์อยู่แล้ว แต่ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ การที่ท่านผู้นำบินไปเปิดสนามบินและเที่ยวบินอย่างเป็นทางการเสียใหญ่โต แล้วสุดท้ายผู้ให้บริการไม่สามารถจะดำเนินการได้ด้วยเหตุผลผู้โดยสารน้อย นี่ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานของคนที่เกี่ยวข้อง มุ่งแต่จะสร้างภาพให้มีผลงานแต่ไร้การวิเคราะห์ ประเมินความเป็นไปได้ ทำกันแบบนี้ก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊งเท่านั้น แล้วประชาชนจะหวังอะไรได้

เป็นเสียแบบนี้นี่ยังไง จึงทำให้พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ประกาศเสียให้ชัด ๆ จะยุบสภากันในปลายปีนี้ คงประเมินกันไว้แล้วยึดยื้อกันอย่างไรก็ได้เต็มที่เท่านั้น รอให้งบประมาณใหม่มีผลไปก่อน จะได้นำไปตีกินเป็นผลงานซื้อใจประชาชนก่อนเลือกตั้ง ความจริงอำนาจการยุบสภาที่เป็นของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจล้วน ๆ นั้น ปัจจัยที่จะนำไปสู่สิ่งนี้ได้ มีแค่ไม่กี่ประการ อย่างแรกคือความขัดแย้งกันของฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร จนไม่สามารถทำให้การบริหารบ้านเมืองเดินต่อไปได้ ก็ต้องยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน

ภาพอธิบายความขัดแย้งตรงนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล หากแต่เป็นปัญหาภายในของรัฐบาลเอง ที่นำไปสู่การถูกตีตกกฎหมายสำคัญในชั้นพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตรงนี้จะทำให้คนที่เป็นผู้นำต้องตัดสินใจลาออกหรือยุบสภา ซึ่งในอดีตไม่เคยมีใครที่จะเลือกวิธีการแรก ประการต่อมาคือ เกิดการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน กรณีนี้ในอดีตมักจะมีเหตุที่ผู้ถูกอภิปรายเกิดข้อกังขาจากสังคมอันเนื่องมาจากข้อมูลที่ถูกนำมาซักฟอก

เมื่อตอบคำถามไม่ได้ หรือสถานการณ์ทำให้เห็นว่าน่าจะส่งผลถึงเสถียรภาพของรัฐบาล ก็นำไปสู่การยุบสภา แต่ว่ายุคของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ศักยภาพของฝ่ายค้านยังไม่มีมากพอที่จะทำถึงขนาดนั้น จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำไปสู่การยุบสภาได้ สิ่งที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ประเมินและนำไปสู่การส่งซิกจึงเป็นประเด็นที่คิดว่า ฝ่ายกุมอำนาจกุมความได้เปรียบทุกประตูแล้ว จึงสมควรที่จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยหวังว่าตัวเองและพวกพ้องจะได้กลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปถึงตรงจุดนั้นสิ่งที่จะทำให้มองเห็นภาพชัดขึ้นว่า พรรคสืบทอดอำนาจและผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะกุมความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ ต้องจับตาดูกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ รัฐสภา เวลานี้ สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนด ถ้าเกิดการล้มกระดานกันขึ้น ก็หมายความว่า ขบวนการสืบทอดอำนาจยังคงจะใช้วิธีการแบบเดิมเพื่อให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกลับมาบริหารประเทศเหมือนเดิม

แม้จะเกิดคำถามว่า กรณีที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งจะต้องเขียนให้สอดคล้องกับส่วนที่มีการแก้ไขให้เลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบไม่สามารถคลอดออกมาใช้ได้ ตามบทบัญญัติก็ให้อำนาจกกต.ในการออกระเบียบเพื่อจัดการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญได้ เมื่อสแกนไปยังกกต.ทั้ง 7 คน เห็นแนวคิดและวิธีการทำงานที่ผ่านมา การตีความข้อกฎหมายต่าง ๆ ก็มองเห็นกันได้อยู่แล้วว่า กระบวนการเลือกตั้งที่จะออกมาเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใด

กระนั้นก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่มองเห็นว่าตัวเองและพวกพ้องอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ จึงสามารถกำหนดเงื่อนเวลาที่จะยุบสภาได้เท่านั้น ระหว่างนี้ก็มีการประเมินภาวะความเดือดร้อนของประชาชนจากกรณีน้ำมันแพง ราคาพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าอื่น ๆ ก็ขยับขึ้นตามกันเป็นแถว อันส่งผลต่อภาวะค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ขณะที่รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น มิหนำซ้ำบางครอบครัวยังมีปัญหารายได้ลดลง ที่เกิดจากการถูกเลิกจ้าง และผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เสียด้วยซ้ำ

ตรงนี้จะเห็นได้ว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสามารถที่จะสร้างแรงกระเพื่อมจนถึงขั้นนำไปสู่การล้มรัฐบาลได้ จากที่เคยยืนกระต่ายขาเดียวต่อปัญหาราคาน้ำมันดีเซลที่ทำท่าว่าจะไม่ตรึงราคาช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคขนส่ง ถึงขนาดที่ว่าถ้าผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งหยุดวิ่งจะให้ทหารมาวิ่งแทน แต่ล่าสุดก็พูดในทำนองว่าจะต้องตรึงราคาในส่วนนี้ให้ถึงที่สุด ไม่มีอะไรซับซ้อนหากปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดตามที่กล่าวอ้าง รัฐบาลเรือเหล็กก็มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับสารพัดม็อบและอาจต้องมีอันเป็นไปก่อนเวลาอันสมควร

ความเคลื่อนไหวเรื่องเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากที่พรรคสืบทอดอำนาจประกาศไม่ส่งคนลงสมัคร เพราะชัดแล้วว่าพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จะให้ทีมเมืองหลวงของพรรคหนุน สกลธี ภัททิยกุล ที่ลงในนามอิสระเนื่องจากมีสายสัมพันธ์ส่วนตัวอันแน่นแฟ้นกับผู้เป็นพ่อมาก่อน ซึ่ง สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ประกาศขอเสียงของแนวร่วมกปปส.ให้ช่วยหนุนด้วย ล่าสุดมีข่าวว่า พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ลากตั้ง จากเดิมที่ถอดใจไปแล้ว ได้รับแรงหนุนจากแกนนำกปปส.อีกกลุ่ม ทำให้หันหัวเรือขอวัดดวงซักตั้ง ถ้าเป็นไปตามนี้ บอกได้เลย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ฟอร์มทีมงานไว้รอบริหารเมืองหลวงได้เลย

Back to top button