ระวังถูกตลบหลัง

ถ้าว่ากันตามจริงจะเห็นว่า เกมหุ้นเป็นเรื่องของ “ความคิด” และ “ความไว” ของแต่ละคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การดันหุ้นขึ้นแรงในแต่ละรอบ มักจะตามมาด้วยการตลบหลังขายหุ้นเป็นประจำ


ถ้าว่ากันตามจริงจะเห็นว่า เกมหุ้นเป็นเรื่องของ “ความคิด” และ “ความไว” ของแต่ละคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การดันหุ้นขึ้นแรงในแต่ละรอบ มักจะตามมาด้วยการตลบหลังขายหุ้นเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ ที่เห็นกองทุนรินหุ้นออกมาเรื่อย ๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังสถานการณ์หลายอย่างในต่างประเทศไม่เอื้อให้ลุยต่อ จึงขอกระโดดลงระหว่างทางเพื่อตั้งหลักสักระยะหนึ่งนะจ๊ะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอ่ยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,687.45 จุด บวกไป 1.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.27 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ออกไปในทางเดียวกับที่ “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่วันก่อน ๆ และถ้าดูจากโอกาสขึ้นลงที่เผื่อไว้ประมาณ 20 จุด ก็ยังเป็นระดับที่นักเล่นทยอยซื้อหุ้นได้สบาย ๆ เพราะในมุมของปัจจัยพื้นฐานที่ประเมินคร่าว ๆ ทำให้รู้ว่า แนวรับบริเวณ 1,650 จุดน่าเล่นเจ้าค่ะ

สถานการณ์วันนี้ถึงเป็นเกมของการเวียนเล่นไปทีละกลุ่ม ซึ่งขึ้นอยู่กับกลุ่มไหนมีปัจจัยเข้าหนุน ก็ไล่ราคากันอย่างเมามัน ส่วนกลุ่มไหนที่นิ่งมานาน ก็ถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ และที่ต้องระวังสุดก็คือ กลุ่มที่โดนปัจจัยลบกดดัน ก็ถูกถล่มขายหนักอีกตามเคย “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับทำตัวพลิ้วไหวมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้เล่นสั้นกันมากเหลือเกิน จนบางคนออกของไม่ทันพะย่ะค่ะ

โดยเฉพาะในรายของแบงก์สีเขียว KBANK ซึ่งตั้งลำขึ้นอย่างช้า ๆ และไต่เพดานขึ้นแบบเนิบ ๆ ก็กลายเป็นหุ้นแบงก์ตัวเดียวที่ไปได้สวย เพราะรายอื่นอยู่ในช่วงของการพักตัว และกำลังโดนรินขายตลอดเวลาแบบนี้ “โมนิก้า” กังวลว่า ในไม่ช้ากองทุน take profit แบบจัดเต็มเหมือนกับแบงก์รายอื่น ๆ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ 156.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.16 พันล้านบาท ยังน่าเล่นไหมจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายอขง GULF ถูกขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาเปลี่ยนโมเมนตัมกะทันหัน ก็เป็นเกมที่นักเล่นต้องประเมินอีกเช่นกันว่า เที่ยวนี้จะเอาอย่างไร? เพราะในมุมของการขึ้นไปทำ double top ที่บริเวณไฮเดิม 57 บาทแล้วย่อตัวลงมา มันถือเป็นเรื่องปกติ! แต่ถ้ามองในมุมของข่าวสารที่เข้ากระทบบริษัท ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจเช่นกัน เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นดูการยืนปิดที่ระดับ 54 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.37 พันล้านบาท น่าเล่นไหมคะ

ส่วนรายที่กรุยทางขึ้นรอบใหม่อย่าง HANA ถือเป็นตัวทีเด็ดที่น่าสนใจมาก ๆ ในมุมของการหุ้นโกรทที่มีอัพไซด์สูง และถ้ามองในมุมของแรงซื้อที่เข้ามาระลอกใหม่ พร้อมด้วยตลาดชิปที่ยังขยายตัวได้อีก ก็ทำให้ราคาปิดที่ระดับ 60.25 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ในแง่ของหุ้นที่เพิ่งขึ้นรอบใหม่นะคะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น STPI ก็มีมุมที่ทำให้หุ้นกลายเป็นตัวทีเด็ดสำหรับการเล่นยาว ๆ เพราะการเข้าไปถือหุ้น 16% ในวินด์ฟาร์มขนาด 600 เมกฯ มันกลายเป็นจุดที่สร้างรายได้สม่ำเสมอให้กับบริษัท ซึ่งส่งผลให้แวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” จึงเห็นด้วยกับการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 5.05 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 121 ล้านบาท แถมมีลุ้นเห็นหุ้นขึ้นไปหายอดเดิมแถว 5.80 บาทแบบนี้..ลุยโลดเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่ไล่ราคากันดุเดือด 2 วันติดอย่างหุ้น PLANB ก็เป็นอะไรที่หวือหวามาก ๆ ในมุมของการเล่นเก็งกำไร เพราะการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.50 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 877 ล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า กำไรน่าจะออกมาดี บรรดานกรู้ถึงไล่ราคากันดุเดือด ผนวกกับการเปิดประเทศเที่ยวนี้ทำให้เม็ดเงินสะพัดขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้ธุรกิจโฆษณารับเต็ม ๆ นะจ๊ะ

ในเมื่อเม้าท์ถึงหุ้นที่มีลุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น OTO เพื่อชี้ให้เห็นการรุกเข้าไปยังมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มันเป็นการพลิกโฉมที่น่าสนใจสำหรับบริษัทนี้ ผนวกกับนักเล่นอินกับเรื่องดังกล่าวเสียด้วย วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 16.40 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 9.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155 ล้านบาทแบบนี้..เดี๊ยนต้องขอคารวะในฝีมือของคนที่อยู่หลังม่านไม้ไผ่อย่าง “เสี่ย.อ” ซึ่งพลิกแพลงบริษัทให้ล้อไปตามกระแสได้อย่างกลมกลืน..อิอิอิ

Back to top button