ฝันร้ายคนเล่นหุ้น

ดูเหมือนช่วงนี้จะมีเรื่องราวที่สร้างความหนักใจให้กับนักลงทุนไม่ว่างเว้น จนแฟนคลับบางรายถึงขั้นเก็บไปฝันร้ายตลอดทั้งคืน


ดูเหมือนช่วงนี้จะมีเรื่องราวที่สร้างความหนักใจให้กับนักลงทุนไม่ว่างเว้น จนแฟนคลับบางรายถึงขั้นเก็บไปฝันร้ายตลอดทั้งคืน เพราะมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกติดค้างในใจมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็น “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ยังตามหลอกหลอนไม่เลิก ถือเป็นเรื่องที่กระทบกับสภาพจิตใจของนักเล่นทุกกลุ่มแบบเต็ม ๆ จึงเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้คนเล่นหุ้นพร้อมกระหน่ำขายหุ้นเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจนะคะ

เหมือนกับเรื่องที่ “โมนิก้า” พยายามย้ำให้เห็นหลายครั้งว่า การทะยานของดัชนีในช่วงหลัง ๆ มันไม่มีอะไรเชื่อได้สักอย่าง เพราะเอาเข้าจริง ๆ ก็เป็นเพียงการ “เด้งเพื่อลง” เสียส่วนใหญ่ (เดือนกว่า ๆ ที่ดัชนีเป็นแบบนี้) เดี๊ยนจึงมักเอ่ยปากเป็นประจำว่า หากมีโอกาสขายทำกำไร..ก็ควรรีบทำในทันที เพราะจังหวะดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แถมกองทุนก็ไม่ได้จริงจังกับการซื้อหุ้นเหมือนเมื่อก่อน..ทุกอย่างเลยตุปัดตุเป๋อย่างที่เห็นไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงไปถึงระดับ 1,599.87 จุด แต่ระหว่างวันตีกลับขึ้นไปถึงระดับ 1,615.51 จุด จนสุดท้ายยืนปิดได้ที่ระดับ 1,612.60 จุด ลบไป 5.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.92 หมื่นล้านบาท ก็เป็นสัญญาณเตือนให้นักเล่นรู้ว่า ตลาดหุ้น “พร้อมลง” มากกว่า “พร้อมขึ้น” ซึ่งเป็นเรื่องที่บีบหัวใจนักเล่นที่ชอบคิดช้า และมองโลกในแง่ดีแบบไร้เดียงสา (ในเมื่อทุกอย่างมันดูติดขัดไปหมด แล้วจะดีได้อย่างไร) เจ้าค่ะ

รายแรกที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการช็อกกลางอากาศไปชั่วขณะ คงไม่มีใครเกินหน้าไปกว่า CGD ภายใต้การคอนโทรลของ “พี่ไมค์” หลังโดนเทแบบไม่มีเยื่อใย จนราคาหุ้นทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 0.41 บาท ลบไป 0.17 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 629 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยจริง ๆ และทำให้เดี๊ยนอยากรู้เรื่องหลังบ้านขึ้นมาทันที! เพราะมันต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกตินะจ๊ะ

ส่วนรายที่โดนย่ำเละ (เหมือนแมนยูโดนลิเวอร์พูลล่อไป 7-0) “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงหุ้น IVL อีกครั้ง เพราะการรูดลงมาปิดที่ระดับ 35.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 995 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี 1 เดือน น่าจะเป็นภาพสะท้อนความกังวลที่มีต่อการทำกำไรในไตรมาส 1 ซึ่งส่งผลให้พวกนกรู้ขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ ผนวกกับเป็นหุ้นที่โดนชอร์ตหนักตัวหนึ่ง จึงทำให้ทุกอย่างเละเทะไปหมดจ้า!

รายข้างต้นที่คิดว่าโคม่าเกินจะบรรยายแล้ว แต่ยังมีหุ้นที่อาการหนักกว่าให้เห็นอีกจนได้ และหุ้นตัวที่ว่าก็คือ OR ซึ่งไหลลงมายืนปิดที่ระดับ 21.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 814 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low ให้เห็นคาตาแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับคนที่จะช้อนซื้อ เพราะปมที่ทุกคนกังวลในเวลานี้เป็นเรื่องกำไรไตรมาส 4 ปี 65 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เลยกังวลว่า ไตรมาส 1 ปี 66 จะโดนหางเลขไปด้วยน่ะซี

อีกรายที่ออกไปในทางลุ้นไม่ขึ้น และกำลังตกที่นั่งลำบาก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นเดินเรือ PSL แบบไม่ลังเลใจ เพราะตั้งแต่มีประเด็นค่าระวางเรือลดฮวบ ก็ทำให้ราคาหุ้นวนเวียนอยู่ในทิศทางขาลงอย่างเดียว เดี๊ยนถึงกังวลใจที่เห็นราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 14.80 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 335 ล้านบาท เนื่องจากเที่ยวก่อนราคาหุ้นเคยลงไปถึง 13 บาทเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ FSMART ก็โดนรินขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นโอกาสที่หุ้นจะตีกลับได้เลยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมเสี่ยงที่แฟนคลับต้องคิดให้ดีก่อนลุย เพราะสิ่งที่ขาเผือกเขากังวลกันสุด ๆ คือ กำไรจะมาตามนัดไหม? ผนวกกับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพบว่า กำไรลดทุกปี ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 11 บาท  ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 118 ล้านบาท อาจไม่ใช่จุดต่ำสุดของการลงเที่ยวนี้ไงล่ะคะ

ตบท้ายกันที่หุ้นร้อน ซึ่งวิ่งสวนภาวะแบบงงเต็ก “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น BWG ภายใต้การนำของ “ขาปั่น” ระดับแนวหน้าตลาดหุ้นไทยกันสักหน่อย เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.13 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 367 ล้านบาท มันไม่ใช่เกมธรรมดา ๆ ที่เราเคยเห็นกันอย่างแน่นอน จึงต้องอาศัย “ความไว” และ “ข่าวลือ” ในการเล่นเป็นหลักนะจ๊ะ

Back to top button