หุ้นเด่นไตรมาส 2

ตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,609.17 จุด ลดลง 13.18 จุด หรือ 0.81% จากเดือน ก.พ. ปิดที่ระดับ 1,622.35 จุด


ตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2566

ดัชนีปิดที่ระดับ 1,609.17 จุด ลดลง 13.18 จุดหรือ 0.81% จากเดือนก.พ. ปิดที่ระดับ 1622.35 จุด

ภาพรวมไตรมาสแรก

ดัชนีลดลง 59.49 จุด คิดเป็น 3.57% เทียบกับสิ้นปี 2565 ปิดที่ระดับ 1,668.66 จุด

สาเหตุที่ดัชนีปรับตัวลงแรงไตรมาสแรก เกิดจากนักลงทุนต่างชาติขาย 56,876.12 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขาย 3,197.49 ล้านบาท

ส่วนนักลงทุนไทยซื้อมากสุด 54,553.41 ล้านบาท สถาบันไทยซื้อ 5,520.21ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ฯ บอกว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2/3566

คาดจะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1 หลังจากที่ดัชนีฯถอยลงไปมากแล้ว

สาเหตุจากแรงกดดันปัญหาระบบธนาคารในสหรัฐ และยุโรป ซึ่งขณะนี้มีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

และเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ และไทยคงจะไม่สูงไปกว่านี้แล้ว

มีกาคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้ง

ส่วนไทยก็อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาส 2/2566

โดยมองเป้าหมายดอกเบี้ยของไทยปีนี้ไว้ที่ 2%

ดังนั้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยไม่ได้ปรับขึ้นรุนแรง และเงินเฟ้อถอยได้ก็จะดีต่อการลงทุน ทำให้นักลงทุนกล้ากลับมาลงทุนได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีเซนติเมนท์บวกจากการท่องเที่ยว

และการบริโภคที่ดีขึ้น

ส่วนการส่งออกคงจะต้องรอฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 2566

เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังไม่แข็งแกร่ง

ขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังอยู่ในช่วงของการเลือกตั้งที่เป็นแรงหนุนด้วยคาดหลังการเลือกตั้งตลาดจะฟื้นตัวได้

โดยดัชนีมีโอกาสแกว่งขึ้นในไตรมาส 2 ไปทดสอบแนวต้านที่ 1,680 จุด

แนวรับ 1,520 จุด และปี 2566 มองเป้าหมายดัชนีไว้ที่ 1,720 จุด

หุ้นที่น่าสนใจลงทุนในไตรมาส 2/2566 คือ กลุ่มบริการที่จะดูเด่นกว่าภาคผลิต

มีคำแนะนำหุ้นในกลุ่ม ICT เช่น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โมเมนตัมดีขึ้นหลังการแข่งขันทางธุรกิจเหลือผู้เล่นแค่ 2 ราย ให้ราคาเป้าหมาย 240 บาท

กลุ่มค้าปลีก การจับจ่ายใช้สอยดีขึ้นจากการเลือกตั้ง และยังได้มาตรการภาครัฐหนุน เชียร์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาเป้าหมาย 79 บาท

และบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ราคาเป้าหมาย 40.30 บาท

กลุ่มเครื่องดื่ม เชียร์หุ้น บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ราคาเป้าหมาย 66.10 บาท

คาดกำไรไตรมาส 1/2566 ทำ All time high

และกลุ่มท่องเที่ยว ตอบรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนักลงเที่ยวชาวจีน เชียร์หุ้น บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ราคาเป้าหมาย 15 บาท

นักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) บอกว่า บรรยากาศการลงทุนในไตรมาส 2/2566 น่าจะดีขึ้น

หลังสะท้อนงบฯปี 2565 ที่แย่ไปแล้ว

และไตรมาส 1 หลายธุรกิจผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มพลังงาน

ซึ่งทิศทางผลประกอบการไตรมาส 1/2566 น่าจะดีขึ้น ทำให้น่าจะเห็นภาพการลงทุนดีขึ้น

นอกจากนี้ การเลือกตั้งก็เป็นปัจจัยบวกให้กับตลาด และนโยบายของเฟดที่จะชะลอการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็ช่วยหนุนการลงทุน

ส่วนหลังการเลือกตั้งการลงทุนจะดีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วงไตรมาส 2/3566 ไว้ที่ 1,580-1,730 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนในไตรมาส 2/2566 เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอย่างหุ้นในกลุ่มค้าปลีก แนะนำหุ้น CPALL, บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC และกลุ่มการเปิดเมือง เปิดประเทศ ที่ยังแลกการ์ดอยู่ แนะนำ SPA, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG

กลุ่มโรงไฟฟ้าก็น่าสนใจ จากการคัดเลือกพลังงานหมุนเวียน เชียร์หุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

และบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL

Back to top button