ทางโล่ง?

ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” เห็นดัชนีดีดกลับท่ามกลางความสับสนวุ่นวายทาง “การเมือง” และ “เศรษฐกิจ” เดี๊ยนมักมีอาการกระสับกระส่ายเหมือนประจำเดือนจะมาเป็นประจำ


ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” เห็นดัชนีดีดกลับท่ามกลางความสับสนวุ่นวายทาง “การเมือง” และ “เศรษฐกิจ” เดี๊ยนมักมีอาการกระสับกระส่ายเหมือนประจำเดือนจะมาเป็นประจำ เพราะมันยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมสักอย่าง แถมในแต่ละวันก็มีข่าวโคมลอยออกมาไม่หยุดหย่อน จึงกลายเป็นปมในใจที่ทำให้เดี๊ยนยังไม่ปักใจเชื่อว่า ในเร็ววันนี้จะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งน่ะซี

ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วไปถึง 1,491.12 จุด ก่อนจะเกิดรายการตีกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,529.24 จุด บวกไป 14.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.55 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการวิ่งขึ้นลงวันเดียว 40 จุด มันเป็นผลมาจาก MOU การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นจริงไหม? และการขึ้นเที่ยวนี้จะเป็นบันไดให้ดัชนีในวันต่อไปทะยานขึ้นแบบสะดวกโยธินจริงอ๊ะป่าว?

งานนี้เลยขึ้นอยู่กับนักเล่นมีความเชื่อไปในทางไหน? และด้อมส้มจะไม่ทำอะไรแผลง ๆ ให้ชาวหุ้นตื่นตระหนกอีกไหม? “โมนิก้า” เลยขอออกตัวก่อนใครทั้งสิ้นว่า สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่..สิ่งที่ใช่อาจไม่เห็น จึงต้องกำหนดจุดคัตลอสให้ชัดเจนตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเที่ยวก่อนดัชนีก็เด้งขึ้นแรงแบบนี้ แต่หลังจากนั้นก็รูดทะลุแนวรับถัดไป จึงอย่าเพิ่งทำตัวโลกสวยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ยกเว้นเป็นนักเล่นประเภท “ถึงไหน ถึงกัน” ก็ลุยกันให้เต็มที่ไปเลยจ้าแม๊!

คล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้น BANPU ท่ามกลางความกังวลนานัปการ ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักจริง ๆ เพราะเมื่อดูจากการเด้งจากฐานเดิมแบบไม่ค่อยมีแรง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 8.30 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่วัดใจนักเล่นพอสมควร แถมหลายประเด็นยังเคว้งคว้างล่องลอยอยู่ในอากาศ เดี๊ยนเลยเกิดอาการประหม่าสุด ๆ ไงล่ะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น CPN เพื่อชี้ให้เห็นอาการของหุ้นยังออกลูกแทงกั๊ก และโน้มเอียงไปในทางซึมลงมากกว่า เดี๊ยนถึงเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 67.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท เพราะนักลงทุนสถาบันยัง “ขายหุ้น” มากกว่า “ซื้อหุ้น” แถมการกลับเข้ามาไล่หุ้นก่อนหน้านี้ ก็เกิดขึ้นแค่แป๊บเดียวเอง จึงไม่มั่นใจว่า หุ้นจะกลับตัวได้เจ้าค่ะ

เหตุการณ์ข้างต้นทำให้เดี๊ยนต้องมองไปที่หุ้น PTTGC เป็นรายถัดมาแบบไม่มีข้อแม้ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 37.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 868 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการรีบาวด์หลังจากลงมาลึก ผนวกกับโมเมนตัมของตลาดหุ้นก็ไม่เอื้อเหมือนที่คาดหวัง จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องไปประเมินความเสี่ยงกันเอาเอง เพราะเดี๊ยนยังรู้สึกงง ๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้จ้า!

ในเมื่อต้องเม้าท์ถึงหุ้นที่มาในโทนเด้งกลับกันทั้งที “โมนิก้า” จำเป็นต้องเอ่ยถึงหุ้น GUNKUL เพื่อชี้ให้เห็นสภาพของหุ้นมันออกไปในโทนลงเว่อร์เกินไปหน่อย! ส่งผลให้การตีกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.44 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท กลายเป็นเรื่องที่น่าขบคิดพอสมควร เพราะเมื่อดูจากผลงานไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าคาด กลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ลุยดุ่ย ๆ เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ

ผิดกับในรายของ ITC อย่างชัดเจน เพราะรายนี้โดนถล่มหนักตามผลงานที่ออกมาไม่ดี และตอนนี้ก็เป็นห้วงเวลาของการฟื้นตัวตามผลงานที่คาดจะดีขึ้น ประกอบราคาหุ้นโดนเขย่าเมื่อมีการยกฐานสูงขึ้นเป็นช่วง ๆ “โมนิก้า” ถึงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อราคาหุ้นอีกครั้ง จึงอยากให้นักเล่นลองประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 23.20 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาท น่าสนใจเหมือนที่เม้าท์ให้ฟังไหมเอ่ย?

ตบท้ายกันด้วยหุ้นที่ถูกถล่มไม่เลิก เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอย่าง CKP กันดีกว่า เพราะการทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 3.42 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 3 ปี มันสะท้อนให้เห็นสถานการณ์บางอย่างไม่ปกติ และเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่คิดจะเข้าไปรับหุ้นในช่วงที่หุ้นยังเป็นขาลงแบบนี้..คุณกล้าเล่นกับของร้อนจริงเหรอจ๊ะ

Back to top button