OR จ่อต่ำกว่าไอพีโอ

กราฟที่เป็นสัญญาณทางเทคนิคของ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ไม่ค่อยสวย ราคาหุ้นมี “โอกาส” สูงมากจะหลุด 18.00 บาท ที่เป็นราคาไอพีโอ


กราฟที่เป็นสัญญาณทางเทคนิคของ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) หรือ โออาร์ไม่ค่อยสวย

ราคาหุ้นมี “โอกาส” สูงมากจะหลุด 18.00 บาท ที่เป็นราคาไอพีโอ

หุ้นโออาร์ลงมาต่ำสุดที่ราคาดังกล่าว (18.00 บาท) เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้

แต่น่าจะเป็นการปรับขึ้นทาง “เทคนิค” เท่านั้น

วานนี้ราคาโออาร์ลงมาต่ำสุด 18.40 บาท

ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 18.50 บาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.20 บาท และมีมูลค่าการซื้อขาย 153.9 ล้านบาท

ณ วันที่ 1 ม.ค. 2566 หุ้นโออาร์มีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยถืออยู่จำนวน 320,471 ซึ่งน่าจะมากสุดในบรรดาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

อาจจะมีคำถามว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้ราคาหุ้นโออาร์ร่วงลงมาตลอด

คำตอบของคำถามนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เข้าซื้อขาย

หากจำกันได้นักลงทุนทั้งสถาบัน กองทุน รายใหญ่ รายย่อย ต่างคาดหวังกับอนาคตของโออาร์อย่างมาก

ในแวดวงตลาดทุน นักลงทุนรายใหญ่ ต่างไม่ได้มองอนาคตของโออาร์เกี่ยวกับเรื่องค้าปลีกน้ำมันสักเท่าไหร่

ทว่าจะมองไปยังธุรกิจ “นอนออยล์” เป็นหลัก

ต่างค่อนข้างมีความหวังว่า โออาร์นอกจากธุรกิจน้ำมันค้าปลีกแล้ว

เรื่องธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน จะเข้ามาช่วยสร้างความ “เติบใหญ่” ให้กับ โออาร์ กระทั่งมีสัดส่วนรายได้และกำไรมากกว่าค้าปลีกน้ำมัน

แม้ว่า นับจากเข้าตลาดหุ้นมาของโออาร์

โออาร์ จะมีการลงทุนเพิ่มในธุรกิจนอนออยล์ค่อนข้างมาก

แต่หากดูตัวเลข EBITDA ของนอนออยล์ ยังไม่น่าสนใจมากนัก

ประกอบกับธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันและโออาร์เข้าไปลงทุนนั้น กำลังถูกจับจ้องว่า จริงแล้วจะช่วยสร้างกำไรให้กับโออาร์อย่างไร

ไม่เพียงแต่ความผิดหวังกับธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันเท่านั้น

ยังผิดหวังกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของโออาร์ด้วย

โดยเฉพาะปัจจัยการถูก “แทรกแซงค่าการตลาด” จากภาครัฐ

นั่นส่งผลให้โออาร์ไม่สามารถแสวงหากำไรได้ตามสมควรที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พึงจะต้องหาได้ เพื่อสนองตอบกับนักลงทุน

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566  รายได้และกำไรของโออาร์ยังมาจากค้าปลีกน้ำมันในสัดส่วนที่ยังสูงอยู่อย่างมาก

และค้าปลีกน้ำมันถูกภาครัฐกดดันเอาไว้

หรือหากพูดให้เข้าใจแบบง่าย ๆ คือ ภาครัฐ “ควบคุมกำไร” นั่นทำให้นักลงทุนเกิดความผิดหวัง

ยิ่งราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับขึ้น

และกองทุนน้ำมันอาจจะแบกภาระไปได้อีก 6-7 เดือน

ค่าการตลาดของโออาร์อาจจะถูกกดลงอีกก็ได้

ราคาหุ้นโออาร์ที่ปรับลงมาต่อเนื่อง จึงไม่ต้องไปหาคำตอบหรือสาเหตุอะไรให้มากความ

ยิ่งแนวโน้มไตรมาส 3/2566 เห็นว่า เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และผลประกอบการในส่วนของกำไรอาจจะออกมาไม่ดีนัก

ทำให้ยิ่งกดราคาหุ้นให้ลงไปอีก

มุมมองของนักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์หุ้นโออาร์ออกมา

แม้ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 29.50 บาท และต่ำสุด 17.50 บาท มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 24.50 บาท

แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกับหุ้นโออาร์ไม่ได้ไปตามกับราคาที่ถูกกำหนดออกมา

ส่วนตัวได้บอกกับนักลงทุนว่า อย่าไปรอรับราคาหุ้นที่ 18.00 บาท

เพราะนั่นคือจุดราคาที่อันตราย เนื่องจากว่าหากรับที่ราคาดังกล่าว และเกิดหลุด (ไอพีโอ) ขึ้นมา โอกาสที่จะกลับมาเหนือไอพีโออีกครั้ง จะเป็นไปได้ยากมาก ๆ

โออาร์  “ไม่ใช่โอกาส” สำหรับนักลงทุนแล้ว

Back to top button