1,460 จุดเด้งสุดท้าย

ความกังวลที่มีต่อเรื่องต่าง ๆ ยังตามหลอกหลอนไม่เลิก จนนักลงทุนเกิดอาการระอาใจมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มชะลอลงทุน


ความกังวลที่มีต่อเรื่องต่าง ๆ ยังตามหลอกหลอนไม่เลิก จนนักลงทุนเกิดอาการระอาใจมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มชะลอลงทุน เพราะไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่าเดิม แถมรอบที่ผ่านมาต้องขายขาดทุนครั้งแล้ว..ครั้งเล่า จึงเป็นแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอม จนต้องหลบไปพักฟื้นเพื่อรอเวลากลับมาเปิดตัวสวย ๆ รอบใหม่เจ้าค่ะ

คิดง่าย ๆ ก็คือ ต้นเดือน ก.ย. ดัชนีขึ้นไปเกือบถึง 1,580 จุด แต่เทรดหุ้นอีท่าไหนก็ไม่รู้ ดัชนีกลับลงมายืนแถว 1,470 จุดในช่วงสิ้นเดือน และเป็นการร่วงหล่นมากถึง 100 จุดภายในหนึ่งเดือน ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนเกิดอาการขวัญผวาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าดูจากแนวรับสุดท้ายเที่ยวก่อนที่ดัชนีลงมาแล้วเด้งกลับอย่างต่อเนื่องจะอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด จึงเป็นเรื่องที่ต้องชั่งใจมากเป็นพิเศษนะคะ

ที่น่าสนใจคือ สัญญาณเทคนิคทุกตัวบอกเหมือนกันว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าเขต oversold นานเกินไป จนทำให้ดาวน์ไซด์ของการลงรอบนี้ต่ำลงเรื่อย ๆ “โมนิก้า” เลยเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,469.46 จุด ลบไป 1.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.54 หมื่นล้านบาท เหมาะต่อการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ต ยกเว้นเที่ยวนี้ดัชนียังอ่อนตัวลงไปเรื่อย ๆ จนหลุดแนวรับสุดท้ายลงไปดื้อ ๆ ก็ควรจะคัตลอสทันทีนะตัวเอง!

สำหรับหุ้นดาวเด่นที่ “โมนิก้า” สนใจมากเป็นพิเศษก็คือยานแม่ SCB เพราะ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ดัชนีก็รูดมหาราชจนหลุดร้อยบาท และลงไปตั้งหลักแถว 96 บาทสักพัก ต่อจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นมายืนบริเวณ 106 บาท เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 101.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.98% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.27 พันล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตนะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้เดี๊ยนต้องรีบหันไปมอง BEM เพื่อชี้ให้เห็นแนวรับปีนี้ที่บริเวณ 8 บาทค่อนข้างแข็งปั๊ก และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 8.10 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.41% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 361 ล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสสำหรับคนที่ชอบซื้อหุ้นเพื่อลุ้นเด้งช่วงสั้น เพราะสถานการณ์ธุรกิจก็กลับมาเป็นปกติแล้ว แถมที่ผ่านมาก็เคยเห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปแถว 9 บาทกันมาแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วมั้ง!

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นที่ลุ้นเด้งกันทั้งที “โมนิก้า” ขอนำเสนอหุ้น LH เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นที่ชอบ “ของดีราคาถูก” เป็นรายถัดมา และเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนสนใจหุ้นตัวนี้ก็คือ ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับ 7% ขณะเดียวกันจะเห็นว่า การเทรดของหุ้นอยู่บน PE 13 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะต่อการลงทุนสุด ๆ หรือแม้กระทั่งหุ้นลงมาใกล้จุดเด้งที่บริเวณ 7.50 บาท ส่งผลให้การยืนปิดที่ 7.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 365 ล้านบาท น่าสนใจจ้า!

ส่วนรายที่น่าเป็นห่วงว่า ราคาหุ้นจะไหลลงเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นเดินเรือ PSL เป็นลำดับแรก หลังผลงานในครึ่งปีแรกทรุดฮวบ และมีความเป็นไปว่า ครึ่งปีหลังก็อาจไม่ดีเหมือนกัน แบบนี้มันกลายเป็นประเด็นที่ต้องคิดหนักพอสมควรว่า การยืนปิดที่ระดับ 9.35 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134 ล้านบาท อาจไม่ใช่จังหวะที่ต้องเข้าไปทยอยสะสมหุ้นน่ะซี

คล้ายกับสถานการณ์ของ BE8 ที่ถูกถล่มขายออกมารัว ๆ จนราคาหุ้นร่วงจากยอดที่ขึ้นไปทำไว้เมื่อต้นเดือนก่อนบริเวณ 47 บาท แต่วันนี้กลับลงมายืนปิดที่ระดับ 35.75 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 8.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท แถมเป็นการหลุดแนวรับ 40 บาทลงไปลึกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ควรดูอยู่ห่าง ๆ มากกว่าจะกระโดดเข้าไปรับของในเวลานี้นะจะบอกให้

ตบท้ายกันที่หุ้นมีลุ้นไปต่อแบบเนิบ ๆ และมีอัพไซด์ให้เล่นเพียบอย่าง JMT กันดีกว่า เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า ผลงานของหุ้นตัวนี้เสมอต้นเสมอปลาย และหลายครั้งที่ตลาดหุ้นเริ่มกลับตัว หุ้นตัวนี้จะเป็นหุ้นแถวหน้าที่มีแรงซื้อเข้ามาเยอะเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 47.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 756 ล้านบาท ถือว่ายังน่าสนใจเหลือเกินจ้า!

Back to top button