เดือนของการขาย!

จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเม้าท์ถึงเรื่องร้าย ๆ เพื่อบั่นทอนกำลังใจของนักลงทุน แต่ข้อมูลทางสถิติที่รวบรวมไว้มันบอกว่า การลงทุนเดือนนี้เหนื่อยแน่


จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเม้าท์ถึงเรื่องร้าย ๆ เพื่อบั่นทอนกำลังใจของนักลงทุน แต่ข้อมูลทางสถิติที่รวบรวมไว้มันบอกว่าการลงทุนเดือนนี้เหนื่อยแน่ เพราะปัจจัยต่าง ๆ ไม่เอื้อให้นักลงทุนตะลุยซื้อหุ้นแบบจัดเต็ม ส่งผลให้ต่อจากนี้จะมีแรงขายออกมาเป็นระลอกอย่างไม่ต้องสงสัย ไล่เรียงตั้งแต่ยอดส่งออกลดกว่า 10% ตามติดมาด้วยปัญหาข้าวยากหมากแพง รวมทั้งธุรกิจค้าขายชะลอตัวแบบนี้..ไหวแน่เหรอนาย!

ประกอบกับเดือน พ.ค. จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD และประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 แบบรัว ๆ จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพ sell on fact แบบเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งประเด็นเงินบาทอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับ 37 บาท ก็เป็นจุดที่ทำให้รู้ว่า ต่างชาติน่าจะขายหุ้นไทยออกมาอีก หรือแม้กระทั่งเรื่องเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ก็เป็นแรงกดทับที่ทำให้สถานการณ์หลายอย่างมีแต่ “ทรงกับทรุด” นะจะบอกให้

ฉะนั้นการที่ดัชนีออกอาการขาแข้งสั่น ทั้งที่เพิ่งขึ้นอย่างร้อนแรงไม่ทันไร น่าจะมาจากประเด็นดังกล่าวที่เพิ่งเม้าท์ให้ฟัง รวมทั้งการที่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลา 7 เดือน แต่พรรคนี้ก็เอาแต่พ่นน้ำลายไปวัน ๆ จนมองไม่เห็นทิศทางของเศรษฐกิจจะไปทางไหน? เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้ตลาดหุ้นไทยทำได้แค่ประคองตัวปิดที่ระดับ 1,361.97 จุด บวกไป 2.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.63 หมื่นล้านบาทแบบหงอยเหงาไงล่ะจ๊ะ

โดยเฉพาะการทิ้งตัวลงแรงของหุ้น DELTA ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 70 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.89 พันล้านบาท ทั้งที่กำไรไตรมาส 1 ก็ออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อาจเป็นระดับที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน จึงโดนขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย ผนวกกับหลายคนกังวลว่า กำไรไตรมาส 2 อาจต่ำกว่าที่ประเมินไว้อีกด้วยแบบนี้ มันหมายความว่า หุ้นกำลังอยู่ในช่วงไซด์เวย์ดาวน์ใช่ไหมเอ่ย?

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น COM7 เพื่อสอดรับกับเรื่องสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว น่าจะทำให้ผลประกอบการไตรมาส 1 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นตัวแปรที่ทำให้ราคาหุ้นซึมลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะผงกหัวขึ้นเล็กน้อย และตีกรรเชียงออกด้านข้างประมาณ 3-4 วัน จนวานนี้ประคองตัวปิดเสมอตัวที่ระดับ 18.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาทแบบนี้..บอกได้ทันทีว่า ลุ้นเหนื่อยมาก ๆ เจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ GLOBAL ซึ่งประกาศกำไรไตรมาส 1 ลดลง 18% แต่ราคาหุ้นสามารถวิ่งสวนขึ้นมาปิดที่ 16 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท อาจเป็นเรื่องดีในสายตานักเล่น แต่อย่าลืมว่า วงรอบการเคลื่อนตัวของหุ้นอยู่ในระดับ 14-18 บาทเป็นเวลาร่วมปีมาแล้ว (W-Shape) และสิ่งที่เห็นวานนี้อาจเป็นเพียงการรีบาวนด์สั้น ๆ ก่อนไหลลงเหมือน 3-4 ครั้งที่ผ่านมาก็เป็นไปได้..เดี๊ยนบอกได้แค่นี้แหละ!

ขนาดเจ้าพ่อแห่งการปันผลอย่าง INTUCH ยังถูกพวกสถาบันรินขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนไซเคิลของหุ้นอยู่ในลักษณะไซด์เวย์ดาวน์ “โมนิก้า” ก็ต้องรู้สึกกังวลเป็นธรรมดาในมุมของคนที่มองภาพลงทุนระยะยาว แต่สำหรับคนที่มองภาพการเล่นเป็นแบบเด้งสั้น ๆ ระหว่างทาง น่าจะประเมินความเสี่ยงจากการยืนปิดที่ระดับ 67 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134 ล้านบาท น่าเล่นขนาดไหน?..อิอิอิ

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นที่เด้งกลับขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นประกันชีวิตอย่าง TLI เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.10 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 218 ล้านบาท ช่างเหมาะต่อการโหนกระแสเป็นอย่างยิ่ง เพราะราคาที่เห็นเป็นการเทรดบน PE 10 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่ำ และถ้าดูจากฐานราคาในระดับ 8.50 บาทเป็นที่ตั้ง ก็เหมาะต่อการเล่นจริง ๆ นะตัวเอง

ตบท้ายกันที่หุ้น NUSA เพื่อชี้ให้เห็นปัญหาที่เกิดจากผู้บริหารบางคนไม่ซื่อตรง จึงทำให้ ก.ล.ต. ต้องออกคำสั่งให้บริษัทชี้แจงเรื่องการขายสินทรัพย์ภายในวันที่ 3 พ.ค. เพราะสิ่งที่เห็นในคราวนี้มันมีตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และผลของการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ น่าจะทำให้บริษัทนี้สั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ และคนที่ซวยสุดของเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้นแมงเม่าอีกตามเคยพะย่ะค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button