พาราสาวะถี

เดิมพันสูงขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่ อนุทิน ชาญวีรกูล จะยอมใส่เกียร์ถอยหยุดยิงตามคำขู่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ และคำขอของ อันวาร์ อิบราฮิม


เดิมพันสูงขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่ อนุทิน ชาญวีรกูล จะยอมใส่เกียร์ถอยหยุดยิงตามคำขู่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ และคำขอของ อันวาร์ อิบราฮิม ขณะเดียวกันฝ่ายกองทัพก็ไม่มีทางยอมที่จะหยุดยิง เพราะเขมรยังระดมยิงเข้าใส่เป้าหมายทั้งทหารแนวหน้า และพลเรือน เป็นเหตุให้ ทหารหาญพลีชีพไปแล้ว 15 นาย บาดเจ็บอีกกว่า 270 นาย ขณะที่ประชาชนพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เป็นตำบลกระสุนตก ชาวบ้านบาดเจ็บสาหัสถึง 2 ราย

นั่นหมายความว่า สองพ่อลูกตระกูลฮุนไม่ได้มีท่าทีที่จะสงบศึกหรือหยุดยิง ตามที่ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เรียกคะแนนสงสารจากนานาชาติ ความจริงหากพูดภาษาจิ๊กโก๋นักเลงจริงเมื่อ กล้าที่จะมีเรื่องกับอีกฝ่าย ก็ต้องกล้าที่จะมาพูดคุยกันสองฝ่ายเพื่อให้การปะทะหยุดลง มากไปกว่านั้นไม่รู้ว่า ฮุน มาเนต ไปพูดอะไรให้ทรัมป์ฟัง ถึงขนาดกล้าที่จะบอกว่า ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นอุบัติเหตุข้างถนน เช่นนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปฟังเสียงของผู้นำประสาทแดกรายนี้ อีกต่อไป

เหมือนที่ พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก บอกไปถึงคนที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิง “ลองไปถาม คุณพ่อ คุณแม่ ภริยาและลูก ของกำลังพล ที่เสียชีวิต ทั้ง 15 นาย ตั้งแต่ จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต ไปจนถึง พลทหารกฤตฎิกร สร้อยระย้าว่า พวกเขาคิดอย่างไร” ส่วนการยืนกระต่ายขาเดียวของอนุทินที่ยังคงให้กองทัพปฏิบัติการทางทหารต่อไปนั้น เป็นภาคบังคับอยู่แล้ว เพราะแนวทางการยุบสภากลางศึกนั้น อ่านกันทะลุหมดแล้วว่า มีเป้าประสงค์อย่างไร

มิติทางการเมืองเป็นเรื่องที่มองกันไม่ยากว่า แต่ละฝ่ายขับเคลื่อนกันแบบไหน ส่วนมิติด้านความมั่นคงเนื่องจากมีบทเรียนเมื่อคราวปะทะ 24-28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ บรรดาผู้นำเหล่าทัพต่างวางแผนร่วมในการจัดการกับเขมรให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะเห็นได้จากเป้าหมายในการเข้ายึดพื้นที่โดยเฉพาะจุดที่เป็นยุทธภูมิสำคัญทางการรบอย่างเนิน 677 ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ที่สามารถตีแตก แต่ก็ถูกเขมรระดมยิงใส่ไม่หยุดหย่อน จนเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิตทีเดียว 4 นายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

รวมไปถึงปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ที่กองทัพต้องชำระแค้นขับไล่ทหารเขมรออกไป และบุกยึดเนิน 350 ให้ได้ ทั้งสองจุดดังว่าเป็นจุดสูงข่มที่ฝ่ายไหนครอบครองได้ จะกุมความได้เปรียบในการรบโดยทันที หนนี้จะเห็นได้ว่าทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สอดประสานทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญคือกรณีปราสาทตาควายก็ได้รับไฟเขียวให้โจมตีได้ เพราะมันไม่ใช่โบราณสถานที่อยู่ในกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามทำลาย เนื่องจากทหารเขมรได้แปรสภาพเป็นฐานการรบไปแล้ว

เช่นเดียวกับประสาทพระวิหาร ที่เขมรใช้เป็นฐานบัญชาการการรบและโจมตีทหารไทยที่อยู่บนภูมะเขือและบริเวณโดยรอบ ยุทธวิธีชั่วช้าแบบนี้หากกองทัพไทยยังใช้ความเป็นสุภาพบุรุษเหมือนที่ผ่านมา จะไม่มีวันตีคืน ยึดพื้นที่ซึ่งเป็นเป้าหมายสำเร็จอย่างแน่นอน นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่แนวรบฝั่งตะวันออก ทางกองทัพเรือจึงได้ เปิดยุทธการประจวบคีรีขันธ์ประจันตคีรีเขตร เมื่อช่วงตีหนึ่งถึงตีสามของวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยใช้หมวดเรือเฉพาะกิจพิทักษ์อ่าวไทย ปฏิบัติการณ์โจมตีพื้นที่เกาะกง

เพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย เนื่องจากการข่าวพบว่า ที่เกาะกงโดยเฉพาะบนเกาะยอเป็นที่ตั้งทหารของฝั่งเขมร มีฐานปืนใหญ่ที่มีระยะยิงครอบคลุมถึงพื้นที่ชุมชนบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด อันเป็นพื้นที่รับผิดชอบและมีหน่วยทหารของกองทัพเรือตั้งอยู่ มีการจัดวางปืนใหญ่จำนวน 4 กระบอก ซึ่งเตรียมที่จะใช้โจมตีฝ่ายไทย จึงจำเป็นที่จะต้องเปิดการโจมตีเพื่อปกป้องตนเองตามหลักกฎหมายและแนวปฏิบัติสากล

จะเห็นได้ว่าทางกองทัพได้มีแผนปฏิบัติไปในแนวเดียวกันทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีตำรวจตระเวนชายแดนร่วมรบด้วย สำหรับการยึดเกาะกงบรรดานายทหารสายเหยี่ยวต่างเรียกร้องอยากให้ใช้กำลังไปยึดกลับคืนมาเป็นของประเทศไทย จะได้แก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งไม่แน่ว่า ที่พี่เบิ้มอย่างสหรัฐฯ มาวุ่นวายเข้าข้างเขมร รวมไปถึงผู้นำมาเลเซียก็ทำท่าว่าจะเป็นพวกกลางกระเท่เร่ เบื้องหลังน่าจะมีเรื่องของผลประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทยมาเกี่ยวข้องด้วยก็เป็นได้

ข้อสงสัยว่าบนสถานการณ์ขัดแย้งไทย-เขมร ดูเหมือน ฝ่ายกุมอำนาจทางการเมืองของสองประเทศจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น นั้น ฝั่งเขมรคงเป็นเช่นนั้น ส่วนฝ่ายไทยใครไปถามอนุทินคงต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน ย่อมมีข้ออ้างร้อยแปดพันประการที่จะหยิบยกมาตีเนียนกรรเชียงหนีการไล่ต้อนของนักข่าว แต่กล้าพูดหรือไม่ว่า ผลพวงจากเรื่องนี้ทำให้มั่นใจว่าคะแนนนิยมคืนมาหลังจากเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ มั่นใจจนนำไปสู่การยุบสภา และมั่นใจต่อตามคำแนะนำของมือกฎหมายศรีธนญชัย ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ ต่อให้ประกาศวันเลือกตั้งไปแล้ว ก็อาจยังมีเหตุให้ต้องเลื่อนเพราะความไม่สงบแนวชายแดน

แม้จะมีนักกฎหมายใหญ่ทั้งหลายบอกว่าสามารถเลือกตั้งได้ โดยงดเว้นพื้นที่ที่มีปัญหาไปก่อน แต่พวกที่เดินเข้าสู่อำนาจด้วยวิธีการที่ไม่ปกติ และ มีแบ็กอัพหนุนหลังชนิดอภิมหาใหญ่โตขนาดนี้ คงไม่ทำตามเป็นแน่ ซึ่งไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ที่เสียหายกว่าใครเพื่อนคงหนีไม่พ้นพรรคสีส้มในฐานะฝ่ายค้ำ ล่าสุดมีการจัด กิจกรรมปิกนิกพรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน เป็นอีเวนต์ที่ถนัดสร้างภาพขายฝันตามสไตล์ แต่ผลพวงจากการตัดสินใจให้เกิดรัฐบาล 4 เดือน ถ้าจะบอกว่าเป็นผลงานก็ต้องยอมรับกันว่า เป็นผลงานที่น่าอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่ง

อรชุน

Back to top button