PTTGC จ่อเทิร์นอะราวด์ไตรมาส 1 รับสเปรดปิโตรฯสูง-ดีมานด์ฟื้น

โบรกฯ ประสานเสียง PTTGC จ่อเทิร์นอะราวด์ไตรมาส 1 รับสเปรดปิโตรฯสูง-ดีมานด์ฟื้น


นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า PTTGC จะพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาส 1/64 ราว 9,782  ล้านบาท จากผลขาดทุน 8,784 ล้านบาทในไตรมาส 1/63 และเพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ เป็นผลจากธุรกิจโอเลฟินส์และโพลีเมอร์ราคาดีขึ้น และส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ซึ่งธุรกิจโอเลฟินส์และโพลีเมอร์ มีสัดส่วน 2 ใน 3 ของ EBITDA หรือประมาณ 70% เนื่องจากความต้องการในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน ดีขึ้นที่ไม่มีล็อกดาวน์ และราคาปรับตัวขึ้น ทำให้ภาพรวมดีกว่าไตรมาส 4/63

ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ มีราคาส่วนต่างหรือสเปรดก็ปรับตัวดีขึ้น โดยพาราไซลีน เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อน และ เบนซีน เพิ่มขึ้น 50% จากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของ Demand ในภูมิภาค โดยเฉพาะจากจีน

ส่วนธุรกิจโรงกลั่น มี Product Spread ปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ จากการฟื้นตัวของความต้องการใช้ตามฤดูกาล แม้จะมีการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกระลอก แต่หลายประเทศยังไม่มีการประกาศล็อกดาวน์เหมือนช่วงเดียวกับปีก่อน ทำให้คาดว่าบริษัทจะมีค่าการกลั่น (Market GRM) อยู่ที่ 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1.78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 4/63

ทั้งนี้ แนวโน้มไตรมาส 2/64 ดีขึ้น ทั้งจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี ทั้งกลุ่มโพลีเมอร์และอะโรเมติกส์ และคาดว่าผลประกอบการจะยังได้ประโยชน์จากการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ในไตรมาส 2/64 ได้แก่ โครงการ ORP (Olefins Reconfiguration Project เพื่อเพิ่มกำลังผลิต Ethylene จำนวน 5 แสนตันต่อปี และ Propylene จำนวน 2.5 แสนตัวต่อปี) ทำให้มองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกยังแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นถอยลงเนื่องจากไม่ค่อยมีปัจจัยหนุน ราคามี upside ราว 12% ธุรกิจปิโตรเคมีขึ้นกับเศรษฐกิจ ฟื้นตัวชัดเจน  โดยประมาณการกำไรปี 64 ที่ 16,188 ล้านบาท และมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ

ด้าน นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/64 ของ PTTGC จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,821 ล้านบาท Turnaround จากไตรมาส 1/63 ที่มีผลขาดทุน 8,784 ล้านบาท และเติบโต 22% จากไตรมาส 4/63 เนื่องจากสเปรดปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ปรับขึ้น 30% ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนอะโรเมติกส์ก็มีสเปรดดีขึ้น โดยเฉพาะฟีนอล ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Specialty มีสเปรดทำนิวไฮในรอบ 10 ปี

ขณะที่กลุ่มโรงกลั่น มีค่าการกลั่น (Market GRM) ฟื้นตัวขึ้นโดยปัจจุบันแตะ 2.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากที่แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งเริ่มมีการฉีดวัคซีน และหลายประเทศไม่มีการ Lock down รวมทั้งจะมีกำไรจาก Stock Gain ราว 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นมา 26% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ทั้ง 3 ธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 1/64 และดีต่อเนื่องไปในไตรมาส 2/64  อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีซัพพลายใหม่ที่เป็นเอทิลีนที่ทยอยเข้ามาทั้งปี 87 ล้านตัน แต่ไม่ได้กังวลเพราะ PTTGC ไม่มี over supply โดยในช่วงครึ่งปีแรกโอเลฟืนส์ยังดีอยู่ เพราะโรงงานในสหรัฐเผชิญพายุฤดูหนาว และบางส่วนยังไม่สามารถกลับมาผลิตได้ ทำให้สเปรดสูงอยู่ในครึ่งปีแรก

ขณะที่มองว่าปีนี้ PTTGC จะ Turnaround ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยทั้งปี 64 คาดมีกำไรสุทธิ 18,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,615% จากปีก่อนที่มีกำไร 200 ล้านบาท และดีกว่าปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 11,683 ล้านบาท

ส่วน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดการณ์กำไรสุทธิ PTTGC ในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 47.2% จากไตรมาส 4/63 รับผลบวกจากทุกธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานปกติที่ดีขึ้นจากงวดก่อนหน้า โดยเฉพาะธุรกิจโอเลฟินส์ จาก spread ผลิตภัณฑ์ทุกตัวทั้ง HDPE, LLDPE, LDPE, PP ที่เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก supply ที่ตึงตัวจากการเกิด Unplanned shutdown ของโรงงานหลายแห่งทั้งในตะวันออกกลาง จีน และสหรัฐฯ รวมถึงกิจกรรมเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นของผู้บนริโภคหลัก เช่น จีน

สำหรับธุรกิจโรงกลั่นและอะโรเมติกส์ในไตรมาส 1/64 คาดผลการดำเนินงานปกติจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้เล็กน้อยจากที่เผชิญกับผลขาดทุนในงวดก่อนหน้า โดนในส่วนธุรกิจโรงกลั่น คาดค่าการกลั่นจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 3.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จาก 1.78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในงวดก่อนหน้า ตาม Spread ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปเกือบทุกตัวที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจาก Utilization rate ที่กลับมาสู่ระดับปกติที่ราว 102% จากงวดก่อนหน้าที่ลดการกลั่นมาที่ 91%

ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ ในงวดไตรมาส 1/64 จะพลิกกลับเป็นกำไรได้บางๆ จาก Spread ผลิตภัณฑ์พาราไซลีน และเบนซีน ที่คิดเป็น 25% และ 15%ของปริมาณการผลิตอะโรเมติกส์รวม

นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม คาดจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 1.7 พันล้านบาทจาก 1.1 พันล้านบาทในงวดก่อนหน้า เนื่องจาก Spread ผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่าง ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Spread ผลิตภัณฑ์ PVC ของ บมจ.วีนีไทย (VNT) ที่ปรับตัวขึ้นมาโดดเด่น

ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่มประมาณกำไรปี 64-66 สะท้อนมุมมอง spread ผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์ที่ดีกว่าคาดมากในช่วงครึ่งแรกปี 64 เป็นประมาณการใหม่ 2.07 หมื่นล้านบาท 2.12 หมื่นล้านบาท และ 2.27 หมื่นล้านบาทตามลำดับ

สำหรับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ได้ปรับราคาเป้าหมาย PTTGC ขึ้นเป็น 80.00 บาท/หุ้นจากเดิม 75.00 บาท/หุ้น จากมุมมองที่กำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 1/64 จนถึงไตรมาส 2/64 และทั้งปี 64 อัตรากำไรที่ดีขึ้นทั้งฝั่งโรงกลั่น (ผลกระทบโควิด-19 ลดลง)

พร้อมมอง Positive ต่อแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/64 ที่ราว 10,198 ล้านบาท พลิกทำกำไรจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ฟื้นตัวสูงจากไตรมาสก่อน การฟื้นตัวดีนอกจากจะมาจาก Stock gain ที่ได้น้ำมันดิบฟื้นตัว ยังมาจาก อัตรากำไรปิโตรเคมี ที่เพิ่มขึ้นจาก demand สินค้าฟื้น และ supply shortage และภาพสเปรดปิโตรเคมีที่ดียังต่อเนื่องในในไตรมาส 2/64

ทั้งนี้ ปรับกำไรปกติ 64-65 ขึ้นสะท้อนสเปรดปิโตรเคมีที่ดีกว่าคาดในครึ่งแรกปี 64 จากปัจจัย Supply ตึงตัว และภาพยาวที่มาจาก Demand ฟื้นดีกว่าคาด

Back to top button