“WTI-BRENT” ปิดพุ่ง 5% วิตก “คาซัคสถาน” ระงับส่งออกน้ำมัน หลังพายุถล่ม

น้ำมันดิบ WTI ปิด 114.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ BRENT ปิด 121.60 ดอลลาร์/บาร์เรล เซ่น บริษัท แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม สัญชาติคาซัคสถาน ไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำของรัสเซีย เนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.65) หลังมีรายงานว่า บริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium -CPC) ของคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมันเนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ

สำหรับสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 5.66 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 114.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 121.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) สัญชาติคาซัคสถาน ไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำของรัสเซีย เนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ โดยการส่งออกน้ำมันของ CPC ได้ยุติลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.65) หลังจากโรงงานขนถ่ายน้ำมัน 2 แห่งที่ทะเลดำได้รับความเสียหายจากพายุ ขณะที่การซ่อมแซมจะต้องใช้เวลาราว 1 เดือนครึ่ง

ส่วนโรงงานแห่งที่ 3 ไม่ได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้เมื่อวานนี้ อันเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งน้ำมันส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากท่อส่งน้ำมันของ CPC เป็นของรัสเซีย คาซัคสถาน รวมทั้งน้ำมันของบริษัทอื่นๆ เช่น เชฟรอน โดยที่ผ่านมานั้น CPC ส่งออกน้ำมันราว 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก

อย่างไรก็ตามสัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล

Back to top button