PSG คว้างานใหญ่ “ปั๊มสโตเรจ” สปป.ลาว 214 แห่ง ปักหมุดปีนี้ เทิร์นอะราวด์

PSG ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจแบบมีผูกพัน ศึกษาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าน้ำตกแบบสูบหมุนเวียน ในสปป.ลาว 214 แห่ง ปักหมุดปี 65 จะพลิกกลับมามีกำไร โดยมีโอกาสที่จะล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปี 2566


นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จกัด (มหาชน)  หรือ PSG เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 บริษัทและรัฐบาลของ สปป.ลาว โดยกระทรวงแผนการและการลงทุน กรมส่งเสริมการลงทุน (Ministry of Planning and Investment, Investment Promotion Department) ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจแบบมีผลผูกพัน เกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าน้ำตกแบบสูบหมุนเวียน (Pumped Storage Hydroelectric Power) ในสปป. ลาว

ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดระยะเวลา 24 เดือน เป็นเพียงผู้เดียวในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าน้ำตกแบบสูบหมุนเวียน (Pumped Storage Hydroelectric Power) (โครงการฯ) ในแหล่งพื้นที่ศักยภาพของ สปป.ลาว จำนวน 214 แห่ง ซึ่งหากผลการศึกษาพบว่ามีแหล่งพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการฯ ในเชิงธุรกิจ บริษัทมีสิทธิที่จะพัฒนาโครงการฯ บนแหล่งพื้นที่ใดๆ ข้างต้น โดยรัฐบาลของ สปป.ลาว และบริษัทจะเจรจาข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานแต่ละโครงการฯ ภายหลังจากการศึกษาความเป็นไปได้เสร็จสิ้น

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ PSG ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลงานก่อสร้างโครงการ XPPL Expansion Phase 1 ของ Xekong Power Plant Company Limited มูลค่าโครงการ USD 263,955,452.33 ดอลลาร์สหรัฐ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือเทียบเท่ากับประมาณ 8,895.30 ล้านบาท (โดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 12 ม..2565) เพื่อรับสิทธิในการดำเนินงานก่อสร้าง (Turnkey Construction) เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตถ่านหิน จากขนาดประมาณ 2.94 ล้านตันต่อปี เป็นขนาด 15 ล้านตันต่อปีที่จังหวัดเซกอง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 32 เดือน โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงนามในสัญญาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาที่เหมาะสมกับ Xekong Power Plant Company Limited

นอกจากนี้ ด้าน นายชวิต แสงอุดมเลิศ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร PSG เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” วันที่ 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ว่าจากที่บริษัทชนะประมูลงานก่อสร้างโครงการ XPPL ใน สปป.ลาว มูลค่าโครงการเกือบ 9,000 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 32 เดือนดังกล่าว ถือเป็นงานที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทมากว่า 40 ปี  หลังจากที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาเมื่อปีก่อน ซึ่งอาจจะเป็นการเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป และจะทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น ในปี 2565 บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยจะพลิกกลับมามีกำไร หลังจากในช่วงกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา มีผลขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 บริษัทมีขาดทุนสะสมประมาณ 1,500 ล้านบาท แม้เป็นตัวเลขที่สูง แต่บริษัทก็จะพยายามล้างขาดทุนสะสม โดยมีโอกาสที่จะล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปี 2566 

สำหรับในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทติดปัญหาทางการเงิน จนไม่สามารถจะรับงานขนาดใหญ่ได้ จึงทำให้เดิมบริษัทไม่มีมูลค่างานในมือ (Backlog) เลย ซึ่งงานก่อสร้างโครงการ XPPL ใน สปป.ลาว เป็นงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มูลค่าเกือบ 9,000 ล้านบาท หลังจากที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามา ทำให้มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง จนเข้าไปรับงานขนาดใหญ่ได้” นายชวิต กล่าว

ส่วนด้านแผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทจะยังคงโฟกัสในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ในอนาคตมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น หลังจากที่ PSG มีผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้ามา จึงเปลี่ยนไปรับงานในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะใน สปป.ลาว ที่การแข่งขันไม่รุนแรง และมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าในประเทศไทย จากเดิมที่บริษัทจะเน้นรับงานในประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีการแข่งขันสูง และมีมาร์จิ้นไม่ได้ดีมาก

ทั้งนี้ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจใน สปป.ลาว มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด หรือมีการเติบโตตัวเลขสองหลักที่มากกว่า 10% ขณะที่การแข่งขันไม่ได้สูงมาก และน่าจะทำมาร์จิ้นได้ดีกว่างานในประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติบโตต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังจะเน้นโครงการที่เป็นเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการขนาดใหญ่ จากภาคเอกชน ใน สปป.ลาว ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีใน สปป.ลาว ก็มีโอกาสที่จะทำให้ได้รับงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้งานก่อสร้างโครงการ XPPL รองรับการขยายกำลังการผลิตถ่านหิน จากขนาดประมาณ 3 ล้านตันต่อปี เป็นขนาด 15 ล้านตันต่อปี

Back to top button