FSMART อัดงบ 100 ล้าน ลุย ‘ตู้เต่าบิน’ หวังโกยยอดขายปีนี้ทะลุ 3 พันล้าน

FSMART อัดงบ 100 ล้าน ลุย ‘ตู้เต่าบิน’ หวังโกยยอดขายปีนี้ทะลุ 3 พันล้าน จับตาเสิร์ฟเมนู “ก๋วยเตี๋ยว” ผ่านตู้ หวังปั้มรายได้เพิ่มปี 67


นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART กล่าวว่า สำหรับธุรกิจ “ตู้เต่าบิน” ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด (FORTH Vending) มองว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่สุดของกลุ่ม จากปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มีมูลค่ากว่า 2.47 แสนล้านบาท และเชื่อว่าจะสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 4% ซึ่งในปี 2567 จะได้เห็นธุรกิจที่เป็นความร่วมมือ (Synergy) กันระหว่างผลิตภัณฑ์ของบริษัทในกลุ่ม อาจเห็นเป็นสถานีบริการที่มีการรวมกันของตู้ชาร์จไฟฟ้ากิ้งก่าและตู้เต่าบิน

สำหรับธุรกิจตู้เต่าบิน ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ มากมายในช่วงที่ผ่านมารวมกว่า 200 เมนู ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค โดยสัดส่วนเครื่องดื่มขายดีได้แก่ นมและช็อกโกแลต 31%, เครื่องดื่มโซดา 26% และกาแฟ 23% ตามลำดับ โดยปีหน้าอาจได้เห็นการให้บริการขายก๋วยเตี๋ยวภายในตู้เต่าบิน

ขณะที่ยอดขายและรายได้มีแนวโน้มเติบโตสอดคล้องกับแผนการขยายจำนวนตู้ บริษัทมีแผนขยายตู้เต่าบินเพิ่มจำนวน 5,000 ตู้ เป็น 10,000 ตู้ภายในสิ้นปีนี้ จากเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มตู้เต่าบินเป็น 20,000 ตู้ภายใน 3 ปี โดยเชื่อว่ายังมีพื้นที่การตั้งตู้ที่มีศักยภาพอีกมาก หลังผู้บริโภคเริ่มรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้นจากกิจกรรมทางการตลาดที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านราย ที่มีการสมัครใช้บริการผ่านเบอร์โทรศัพท์

ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้ตู้เต่าบินมีการบริหารจัดการวัตถุดิบได้ดีขึ้น อัตราการเสียน้อยลง พร้อมแผนลงทุนด้านการตลาดสำหรับตู้เต่าบินไว้อีกกว่า 100 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าจะมียอดขายแตะที่ 3,000 ล้านบาทได้ จากสิ้นปี 65 มีรายได้อยู่ราว 1,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปี 66 นี้ โดยปัจจุบัน FSMART มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FORTH Vending ราว 26.7%

ส่วนธุรกิจให้บริการทางการเงิน บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่ระดับ 1,000 ล้านบาท ในปีนี้ ซึ่งมองว่าเป็นระดับวงเงินที่สามารถควบคุมหนี้เสียได้ (NPL) ต่ำกว่าระดับ 5% จากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของ “Boonterm Big Data” ที่ผ่านมามีการทดลองให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าราว 30,000 ราย ในปีที่ผ่านมา

ขณะที่การเปิดให้บริการตู้ ATM ล่าช้าจากปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่า จะสามารถมีการเปิดตัวการให้บริการร่วมกับธนาคารพาณิชย์ภายในกลางปีนี้ 1 ราย และในช่วงสิ้นปีอีก 1 ราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบให้สามารถรองรับกับธนาคารได้มากขึ้น

สำหรับธุรกิจตู้ชาร์จไฟฟ้ากิ้งก่า หรือ “GINKA Charge Point” ที่เปิดตัวไปแล้วในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทมองเป็นธุรกิจ New S-curve ใหม่สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่จะเข้ามาสร้างรายได้ทดแทนธุรกิจเดิมอย่างตู้บุญเติม โดยบริษัทมีแผนเปิดสถานีให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปี 2567 ร่วมกับการให้บริการของธุรกิจตู้เต่าบินภายในสถานีฯ

ขณะเดียวกันปีนี้ตั้งเป้าขยายจุดให้บริการชาร์จไฟ 5,000 จุด โดยเป็นการร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ เช่น คอนโดมิเนียม, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, สนามกอล์ฟ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า ตามแผนการขยายจุดให้บริการชาร์จไฟได้ถึง 15,000 จุด สอดคล้องจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า โดยประมาณการว่าจะมีจำนวนถึง 1 ล้านคัน จากปัจจุบันที่ราว 1 แสนคัน

Back to top button