
เปิด 53 บจ. กวาดกำไร Q2 โตทะลัก XPG นำโด่งพุ่ง 100 เท่าตัว!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” เผยโฉม 5 หุ้นเด่นงบ Q2/68 กำไรทะยานพันเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป นำโดย GULF รับกำไรพิเศษจากดีล INTUCH, THAI ฟื้นแรงหลังโควิด, JR–XPG–STECON กางกลยุทธ์โตต่อเนื่อง หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่รายงานออกมาเติบโตเกินกว่า 1,000% ขึ้นไป จำนวน 10 บริษัท โดยเรียงลำดับดังนี้
ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้คัดเลือก 5 บริษัทจดทะเบียนที่มีความน่าสนใจ ควบคู่กับกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างโดดเด่น เพื่อนำเสนอให้แก่นักลงทุน ประกอบด้วย
1.บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG มีกำไรสุทธิ 26.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 0.24 ล้านบาทในปีก่อน (เพิ่มขึ้น 10,867.03%) รายได้รวม 202.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.27 ล้านบาท หลักๆ มาจากรายได้ดอกเบี้ย 165.34 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 31.30 ล้านบาท) โดยเฉพาะจากเงินให้กู้ยืม 43.02 ล้านบาท ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลงเหลือ 49.09 ล้านบาท (ลดลง 8.51 ล้านบาท) และขาดทุนจากการลงทุน 13.77 ล้านบาท แม้ได้กำไรและปันผล 19.63 ล้านบาท แต่ถูกกดดันจากขาดทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่ม 10.82 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมลดลงเหลือ 167.55 ล้านบาท (ลดลง 4.43 ล้านบาท) จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง 9.58 ล้านบาท และการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง 2.53 ล้านบาท แม้มีค่าใช้จ่ายด้านที่ปรึกษาและไอทีเพิ่ม 7.05 ล้านบาท นอกจากนี้ยังรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม 5.67 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.47 ล้านบาท) จากผลขาดทุน บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง
2.บริษัท เจอาร์ ดิวเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ JR มีกำไรสุทธิ 22.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 0.31 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6,986.82%) ปัจจัยหลักมาจากกลยุทธ์ Quick Win ช่วยเร่งรับรู้รายได้, การทยอยส่งมอบงานตามแผน และการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพ ครึ่งปีหลังยังคงมีทิศทางเติบโต โดยเน้นงาน Oil & Gas ที่คู่แข่งน้อยและมาร์จิ้นสูง รวมถึงโครงการ Green Energy เพื่อเสริมรายได้มั่นคง ปัจจุบันมี Backlog 7,039 ล้านบาท รับรู้ใน 1–3 ปี
3.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI มีกำไรสุทธิ 12,124.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 306.14 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3,860.33%) รายได้รวม (ไม่รวมรายการพิเศษ) 44,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% รายได้หลักจากค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกิน 36,142 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.1%) โดย RPK เพิ่ม 15.6% และ ASK เพิ่ม 9.7% อัตราใช้เครื่องบินเฉลี่ย 13.5 ชม./วัน (จาก 13.1 ชม.) และอัตราบรรทุกผู้โดยสาร 77.0% (จาก 73.2%) แต่ Yield ลดลง 13.4% เหลือ 2.66 บาท/หน่วย
ขณะที่รายได้ค่าระวางสินค้า 4,422 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.6%) และรายได้ธุรกิจอื่น 2,747 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.1%) รวมถึงรายได้ดอกเบี้ยและค่าปรับ 1,517 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 46.8%) ด้านค่าใช้จ่ายรวม 34,648 ล้านบาท ลดลง 9% ตามราคาน้ำมันเฉลี่ยลด 15.4% และเงินบาทแข็งค่า กำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมพิเศษ) อยู่ที่ 6,788 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 501%) และบริษัทยังมีกำไรพิเศษจากการยกเลิกสัญญาเช่า 4,980 ล้านบาท และกำไร FX 1,190 ล้านบาท
4.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STECON มีกำไรสุทธิ 512.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 24.28 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2,009.07%) จากรายได้ก่อสร้าง 8,718.91 ล้านบาท และควบคุมต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ รวมถึงได้เงินชดเชยโครงการบึงหนองบอน 400 ล้านบาท
ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 853.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,285.89% จากรายได้ก่อสร้าง 15,182.21 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมทั้งต้นทุนรวมลดลง 2.71% เหลือ 14,365.83 ล้านบาท
5.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มีกำไรสุทธิ 63,871.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5,585.00 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1,043.63%) รายได้รวม 40,617 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24%) Core Profit 7,101 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27%) โดยได้กำไรพิเศษจากการควบรวม INTUCH 56,120 ล้านบาท รายได้หลักเติบโตจากโรงไฟฟ้า GPD, HKP และ Jackson Generation (สหรัฐฯ) รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม 532 MW ที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ปลายปี 2567
ธุรกิจดิจิทัลและโทรคมนาคมรับรู้กำไรจาก AIS 3,483 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 41%) และปันผลจาก KBANK 977 ล้านบาท ส่ง EBITDA ไตรมาสนี้ที่ 13,432 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21%) สิ้นไตรมาสมีสินทรัพย์รวม 742,205 ล้านบาท หนี้สินรวม 396,105 ล้านบาท Net D/E 0.87 เท่า บริษัทคาดรายได้ทั้งปีโต 25% จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของ AIS และโครงการพลังงานใหม่ แผนลงทุนต่อเนื่องกว่า 100,000 ล้านบาทใน 3–5 ปี พร้อมออกหุ้นกู้ 30,000 ล้านบาท ก.ย. 2568 เพื่อรองรับการลงทุน และตั้งเป้า Net Zero Carbon ภายในปี 2593