“ฟินันเซีย” แนะถือ TU หลังเปิดกำไร Q3 ตามคาด ชูเป้า 14 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้กำไร TU ไตรมาส 3/2568 ใกล้เคียงคาดการณ์ อยู่ที่ระดับ 1.3 พันล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากปีก่อน พร้อมปรับลดเป้ารายได้ปี 2568 เหลือติดลบ 2-4% จากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งและภาษีนำเข้าในสหรัฐ


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 ว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX gain) จำนวน 107 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 1.19 พันล้านบาท ลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อน และลดลง 17.8% จากปีก่อน

ทั้งนี้ แม้ปริมาณการขายเติบโตทั้งเมื่อเทียบไตรมาสและปีต่อปี แต่รายได้รวมขยายตัวเพียง 3.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 1.0% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง (Ambient) เนื่องจากการปรับขึ้นราคาสินค้ากลุ่มแบรนด์ยังไม่ทันกับภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทยอยปรับขึ้นได้ในไตรมาส 4/2568

ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับสูงที่ 13.8% ของรายได้รวม จากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร (transformation cost) ประมาณ 212 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 0.6% ของรายได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2568 ลงเป็นหดตัว 2-4% จากเดิมคาดหดตัว 1-2% เพื่อสะท้อนผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ ขณะที่ยังคงประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.5-19.5% และปรับเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A to sale) เป็น 13.5-14.5% จากเดิม 13.5-14%

โดยฟินันเซียยังคงคำแนะนำ “ถือ” หุ้น TU โดยให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 14 บาทต่อหุ้น

Back to top button