โบรกมองกำไร “3 หุ้นโรงแรม” ไตรมาส 3 ฟื้นเด่น ลุ้นท่องเที่ยวไทยดัน Q4 โตต่อ

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินกลุ่มโรงแรมยังมีกำไรในไตรมาส 3/68 โดดเด่น แม้เป็นช่วงโลว์ซีซัน โดยคาดกำไร CENTEL ที่ระดับ 141 ล้านบาท, ERW ที่ระดับ 86 ล้านบาท และ SHR ที่ระดับ 144 ล้านบาท พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” ลุ้นไตรมาส 4 โตต่อเนื่องตามฤดูกาลท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยบทวิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการกลุ่มโรงแรมในไตรมาส 3 ปี 2568 โดยคาดว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จะยังคงมีกำไร แม้เป็นช่วงฤดูกาลชะลอตัวของธุรกิจ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการเข้าพักและรายได้ต่อห้อง (RevPAR) ที่ปรับตัวดีขึ้นในหลายตลาด รวมถึงแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาลช่วงปลายปี

สำหรับ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL คาดว่าจะมีกำไรปกติ 141 ล้านบาท ลดลง 13.7% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 34.8% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยอัตราการเข้าพักและรายได้ต่อห้องของโรงแรมในไทยคาดเติบโต 12% และญี่ปุ่น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่มัลดีฟส์อาจหดตัว 27% แต่ถือว่าฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนที่หดตัวถึง 46%

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/68 จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลท่องเที่ยวในไทยและญี่ปุ่น รวมถึงได้อานิสงส์จากมาตรการส่งเสริมท่องเที่ยวของรัฐบาล ปัจจัยบวกเพิ่มเติมคือการปิดปรับปรุงโรงแรมเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 ส่งผลให้ CENTEL มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในปีหน้า โดย KGI คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ 37.50 บาท อิงค่า EV/EBITDA 10.8 เท่า

ส่วนบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 86 ล้านบาท ลดลง 30.8% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสก่อน โดยอัตราการเข้าพักและรายได้ต่อห้องของโรงแรมตั้งแต่ระดับประหยัดถึงห้าดาวลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 76%

ขณะที่โรงแรม Hop Inn ยังคงเติบโตแข็งแกร่งอัตราการเข้าพักและรายได้ต่อห้องเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า จากการขยายจำนวนห้องพักเป็น 7,700 ห้อง จาก 6,800 ห้องในปีก่อน ทั้งนี้ คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/68 จะเพิ่มขึ้นจากฤดูกาลท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ โดยคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 765 ล้านบาท และปี 2569 ที่ 871 ล้านบาท พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ 3.25 บาท อิง EV/EBITDA 10 เท่า

ขณะที่บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR คาดว่าจะมีกำไรปกติ 144 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 20 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากกำไร 11 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า โดยอัตราการเข้าพักและรายได้ต่อห้องของโรงแรมในมัลดีฟส์เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน (หรือ 2% เมื่อแปลงเป็นเงินบาท)

ส่วนโรงแรมในไทยเติบโตถึง 31% จากปีก่อนหน้า หนุนจากการปรับปรุงโรงแรม SAii Laguna Phuket แล้วเสร็จ ขณะที่โรงแรมในสหราชอาณาจักรทรงตัวจากปีก่อนหน้า จากผลกระทบเงินบาทแข็งค่า ทั้งนี้ SHR ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกัน โดย KGI แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ 1.90 บาท อิง EV/EBITDA 6.8 เท่า

Back to top button