คลังเร่ง “ดาต้า บูโร” อุดช่องโหว่กฎหมาย สกัดเงินสีเทา–แก๊งสแกมเมอร์

ปลัดกระทรวงการคลัง เผย เดินหน้าเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานการเงิน เร่งหาช่องโหว่กฎหมาย เพื่อปิดเส้นทางฟอกเงินและสแกมเมอร์ ภายใน 2 สัปดาห์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 พ.ย.68) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงาน ดาต้า บูโร” (Data Bureau) เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลและข้อกฎหมายของทุกหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลสินทรัพย์มีค่า อาทิ คริปโทเคอร์เรนซี และทองคำ

ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า การดำเนินงานอยู่บนหลักการสำคัญ คือ ตรวจสอบให้เห็นชัดว่ามีช่องโหว่ตรงจุดใดบ้าง เพื่อหาแนวทางปิดหรือจำกัดช่องโหว่ให้แคบลงมากที่สุด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแนวทางหลักในการแก้ไขและป้องกันปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ โดยยอมรับว่าประเทศไทยยังมีช่องโหว่ทางกฎหมายอยู่จริง เนื่องจากแต่ละหน่วยงานต่างมีอำนาจและกฎหมายของตนเอง

ยกตัวอย่างเช่น กรมศุลกากรมีข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้า–ส่งออก ทองคำ ซึ่งเห็นเพียงมุมของตนเอง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นข้อมูลการซื้อขายทองคำจากต่างประเทศ ดังนั้นแม้ทุกหน่วยงานจะมีข้อมูล แต่เป็นลักษณะ “ต่างคนต่างเห็น” ยังไม่ครบทุกมิติ

ด้วยเหตุนี้ คณะทำงานดาต้า บูโร จึงมีหน้าที่นำข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานมาวางเรียงและเชื่อมโยงเข้าด้วยกันให้เป็นภาพใหญ่ เพื่อให้เห็นข้อมูลอย่างรอบด้าน

นายลวรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องเร่งทำตอนนี้คือ หาช่องโหว่ให้เจอ เมื่อพบแล้วต้องพิจารณาต่อว่าจะปิดช่องโหว่นั้นอย่างไร ในระยะเร่งด่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมบางประการ เช่น ให้ยื่นข้อมูลเพิ่มเติมบางรายการ ส่วนระยะยาว กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งเป็นกฎหมายระดับสูงกว่า หากยังมีส่วนใดที่ขาดการกำกับดูแล ก็สามารถเพิ่มเติมไว้ใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ เพื่อให้การกำกับดูแลมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คณะทำงานดาต้า บูโร มีกรอบเวลาการดำเนินงาน 2 สัปดาห์ จึงต้องเร่งดำเนินการอย่างเข้มข้น การเชื่อมโยงข้อมูลและข้อกฎหมายเพื่อเร่งหาแนวทางปิดช่องโหว่ ถือเป็นกลไกสำคัญในการสกัดกั้นแก๊งสแกมเมอร์ที่ยังอาศัยช่องว่างทางกฎหมายกระทำความผิด

คณะทำงานดาต้า บูโร แต่งตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 โดยภารกิจเฟสแรก มุ่งตรวจสอบกลุ่มผู้ที่อาจเข้าข่ายสแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ได้มาตรฐานป้องกันการฟอกเงินสากล (Financial Action Task Force : FATF) พร้อมยอมรับว่าในการประชุมฯ พบช่องโหว่สำคัญคือการกำกับดูแลธุรกรรมซื้อขายทองคำ ซึ่งไม่มีหน่วยงานดูแลโดยตรง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

คลังตั้ง “ดาต้าบูโร” ล่าธุรกรรมต้องสงสัย ปรับมาตรฐานสู่ FATF ปิดจบ ธ.ค.

Back to top button