
KKPS เตือนเศรษฐกิจ Q4 ชะลอตัว เซ่นน้ำท่วม-ภาคผลิตอ่อนแอ หวัง กนง.ลดดอกเบี้ย
KKPS ประเมินเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.ปรับตัวดีขึ้นจากส่งออก–ท่องเที่ยว–การบริโภค แต่ภาคผลิตยังอ่อนแรง การลงทุนเอกชนหดตัว ขณะที่น้ำท่วมเพิ่มความเสี่ยงต่อภาพรวมปลายปี พร้อมมอง “กนง.” มีโอกาสลดดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มาหาชน) หรือ KKPS ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคมปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายองค์ประกอบ โดยเฉพาะภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตยังคงทรงตัวจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันชั่วคราว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัวต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เน้นย้ำความเสี่ยงด้านลบเพิ่มเติมจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมปรับตัวลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า (ปรับผลกระทบจากฤดูกาลแล้ว) และลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากเดือนกันยายนฟื้นตัวดีตามการกลับมาเดินเครื่องของโรงงานที่ปิดซ่อมบำรุง KKPS คาดว่าการซ่อมบำรุงโรงกลั่นหลายแห่งจะเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญจากอานิสงส์ของการส่งออกที่แข็งแกร่ง แต่เศรษฐกิจภาคการผลิตโดยรวมที่อ่อนแรงน่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในไตรมาส 4
โดยภาคการส่งออกยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า (ปรับผลกระทบจากฤดูกาลแล้ว) แม้การส่งออกทองคำชะลอตัวกดดันให้ภาพรวมการส่งออกเติบโตเพียง 5.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หากไม่รวมทองคำ การส่งออกขยายตัวถึง 12.8% ได้รับแรงหนุนจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรกล ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า สินค้าในกลุ่มที่เคยเผชิญมาตรการตอบโต้ทางภาษี เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า และสินค้าเกษตรแปรรูป ปรับตัวดีขึ้น 5.8% จากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ภาคบริการขยายตัวเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า (ปรับผลกระทบจากฤดูกาลแล้ว) และ 0.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้จะเติบโตต่ำกว่าครึ่งปีแรก แต่ยังได้รับแรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารจากมาตรการภาครัฐ เช่น โครงการ “เที่ยวดีมีคืน” รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.9% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 11% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนในเดือนตุลาคมขยายตัว 1.3% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากระดับ 3.8% ในเดือนกันยายน โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายในธุรกิจโรงแรม–ร้านอาหาร การจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ “คนละครึ่งพลัส” อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงต่อเนื่อง 1.1% จากเดือนก่อนหน้า และลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน
บัญชีเดินสะพัดของไทยกลับมาขาดดุล 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่เกินดุล 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเกิดจากการขาดดุลการค้า 1.0 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการขาดดุลทองคำ
ฝ่ายวิเคราะห์ของ KKPS มองว่า กิจกรรมการผลิตยังสะท้อนความอ่อนแอโดยรวมของเศรษฐกิจ แม้ภาคบริการและการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวตามฤดูกาล แต่ยังเติบโตต่ำเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า จึงคงมุมมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเผชิญแรงกดดันชะลอตัวในไตรมาส 4 และอาจมีความเสี่ยงจากการเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิค ขณะเดียวกันยังเห็นโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลดลงเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในช่วงปลายปี